คู่มือ
แนวทางการโฆษณาหลายตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงลึก
คู่มือในการดำเนินแคมเปญของ Sponsored Products ในทุกตลาดที่คุณมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเข้าไปทำการตลาดโดยไม่จำเป็นต้องพูดภาษานั้น ๆ
เริ่มใช้ Amazon Ads เพื่อโปรโมตสินค้าและสร้างแคมเปญ
สร้างโฆษณาแบบต้นทุนต่อคลิกเพื่อช่วยให้ลูกค้าพบสินค้าของคุณบน Amazon
เป็นผู้โฆษณาที่ลงทะเบียนแล้วใช่หรือไม่ ลงชื่อเข้าใช้เพื่อเปิดตัวและปรับแคมเปญของคุณให้เหมาะสม
ด้วยคู่มือนี้ เราจะแสดงให้คุณเห็นว่าคุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจภาษาอื่นเพื่อดำเนินแคมเปญ ของSponsored Productsในประเทศอื่น ๆ เราจะมาดูวิธีสร้างแคมเปญแรกในประเทศที่ไม่ใช่ตลาดในประเทศของคุณ และให้เคล็ดลับในการปรับแคมเปญเหล่านี้ให้เหมาะสมเพื่อความสำเร็จในระยะยาวโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกของการรายงานที่มีอยู่ในโปรแกรมจัดการแคมเปญ
เราจะใช้ผู้ขายในสหราชอาณาจักรที่สมมติขึ้นในชื่อ Hinzelman’s เป็นตัวอย่าง หนึ่งในสินค้าขายดีที่สุดของพวกเขาคือที่นอนเป่าลมระดับพรีเมียมที่ชื่อ Floatzzz Hinzelman’s เคยทำแคมเปญของ Sponsored Products มาบ้างแล้วในสหราชอาณาจักรเพื่อช่วยกระตุ้นยอดขาย และคิดว่านักช้อปในเยอรมนีอาจสนใจที่นอนเป่าลมนี้เช่นกัน พวกเขาจึงตัดสินใจเปิดตัวแคมเปญของ sponsored products ในเยอรมนีเป็นครั้งแรก
การเปิดตัวแคมเปญของ Sponsored Products ที่มีการระบุเป้าหมายอัตโนมัติ
ขณะที่ Hinzelman ใช้โปรแกรมจัดการแคมเปญสำหรับในเยอรมนี พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะดูบัญชีในภาษาที่ต้องการ นั่นคือภาษาอังกฤษ เพื่อให้หน้าจอเป็นภาษาที่พวกเขาคุ้นเคย
เวลาสร้างแคมเปญของ Sponsored Products ในประเทศอื่นที่ไม่ใช่ตลาดภายในประเทศ เราขอแนะนำให้ใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์อัตโนมัติทั้งหมดที่มี คุณสมบัติที่สำคัญคือ
- การระบุเป้าหมายอัตโนมัติ
- การประมูลแบบไดนามิก
- ราคาประมูลที่แนะนำ

โปรแกรมจัดการแคมเปญ
หลังจากนั้นก็ได้เวลาเลือกกลยุทธ์การประมูล ใน 'การประมูลแบบไดนามิก - ขึ้นและลง' Amazon Ads จะปรับราคาประมูลขึ้นหรือลงแบบเรียลไทม์ระหว่างการประมูลสำหรับจำนวนการแสดงผลของโฆษณาทุกการแสดงผลที่มีสิทธิ์สูงสุด 100% โดยอิงตามแนวโน้มในการคอนเวอร์ชัน
Hinzelman’s ใช้กลยุทธ์นี้ เพราะต้องการเข้าถึงนักช้อปที่สนใจสินค้าและพร้อมที่จะซื้อให้ได้มากที่สุด หากต้องการให้ Amazon Ads ลดราคาประมูลเวลาที่โอกาสคอนเวอร์ชันต่ำ ก็สามารถเลือก 'การประมูลแบบไดนามิก - ลดลงเท่านั้น' ได้ กลยุทธ์นี้จะเหมาะ หากบริษัทต้องการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อสร้างยอดรวมของจำนวนคลิกและลด ราคาต้นทุนต่อคลิก (CPC) ลง
จากนั้นก็เลือกสินค้าที่ต้องการโฆษณาเป็น Floatzzz และกำหนดราคาประมูล ด้วยการระบุเป้าหมายอัตโนมัติ พวกเขาสามารถใช้การประมูลเริ่มต้น หรือใช้การประมูลที่แตกต่างกันสำหรับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม การจับคู่ที่ใกล้เคียงกัน การจับคู่แบบหลวม สิ่งทดแทน และส่วนเสริม เราขอแนะนำให้ใช้ประโยชน์จากราคาประมูลที่แนะนำ เพื่อช่วยกำหนดราคาประมูลที่แข่งขันได้สำหรับประเทศนั้น ๆ Hinzelman ใช้ราคาประมูลที่แนะนำเป็นแนวทาง เนื่องจากยังไม่ทราบว่าควรลงทุนในเยอรมนีเท่าใด บริษัทสามารถเปลี่ยนราคาประมูลในภายหลัง
Hinzelman ตรวจสอบว่าราคาประมูลที่เลือกและงบประมาณเหมาะสมกัน หากราคาประมูลสูงกว่างบประมาณของแคมเปญ โฆษณาของพวกเขาอาจไม่มีจำนวนการแสดงผลของโฆษณาเลย

การกำหนดเป้าหมายอัตโนมัติในตัวจัดการแคมเปญ
Hinzelman’s ตัดสินใจใช้ราคาประมูลที่แนะนำสำหรับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม
บริษัทยังไม่สนใจการระบุเป้าหมายเชิงลบในตอนนี้ และทำการเปิดตัวแคมเปญแรกของตนในเยอรมนี
ลองใช้โปรแกรมจัดการแคมเปญ (ต้องลงชื่อเข้าใช้)
การเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญของ Sponsored Products ที่มีการระบุเป้าหมายอัตโนมัติ
Hinzelman ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพราคาประมูลให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มหลังจากดำเนินแคมเปญนี้เป็นเวลาสองสัปดาห์ตามที่แนะนำเพื่อให้แคมเปญทำงานในตอนแรกเพื่อจะได้มีข้อมูลเชิงลึกในการรายงานเพียงพอสำหรับใช้วิเคราะห์ประสิทธิภาพ
การคลิกที่แท็บ 'การระบุเป้าหมาย' ในโปรแกรมจัดการแคมเปญจะแสดงรายงานที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของค่าเริ่มต้นการระบุเป้าหมายอัตโนมัติแต่แบบ Hinzelman หยุดส่วนที่มีประสิทธิภาพต่ำชั่วคราว (เช่น สินค้าส่วนเสริมซึ่งไม่มียอดขาย) และเพิ่มราคาประมูลสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มียอดขายดีและมีค่าใช้จ่ายการโฆษณาและยอดขาย (ACOS) ที่ยอมรับได้ ได้แก่ การจับคู่ที่ใกล้เคียงกัน การจับคู่แบบหลวม และสินค้าทดแทน

แท็บการกำหนดเป้าหมาย
จากนั้น พวกเขาก็ทำการปรับราคาประมูลสำหรับค่าเริ่มต้นสำหรับแต่ละรายการตามราคาประมูลที่แนะนำ ราคาประมูลและช่วงการประมูลที่แนะนำจะมีการอัปเดตทุกวัน โดยอิงจากการเพิ่มหรือลดของราคาประมูลและโฆษณาที่แข่งขันกันในการประมูลแต่ละครั้ง
การวิเคราะห์รายงานจากแคมเปญของ Sponsored Products ที่มีการระบุเป้าหมายอัตโนมัติ
หลังจากผ่านไปสองสัปดาห์ Hinzelman ก็ได้ดาวน์โหลดรายงานสำหรับแคมเปญอัตโนมัติด้วย
รายงานที่เป็นประโยชน์ที่สุดในการใช้งานแคมเปญในภาษาต่างประเทศก็คือรายงานข้อความค้นหา พวกเขาดูที่คอลัมน์ 'คำค้นหาของลูกค้า' เพื่อดูว่าจริง ๆ แล้วนักช้อปใช้คำว่าอะไรในการค้นหาสินค้าของตน หากข้อมูลนี้ประกอบด้วยตัวอักษรและตัวเลขผสมกัน แสดงว่านักช้อปพบโฆษณาของคุณในหน้ารายละเอียดสินค้าหน้าอื่นแทนที่จะเป็นในหน้าผลการช้อปปิ้ง Hinzelman ใช้ตัวกรองที่อยู่ด้านบนเพื่อคัดแยกคำค้นหาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากวัตถุประสงค์หลักคือการเพิ่มยอดขาย Hinzelman จึงมองหาคำค้นหาที่มียอดขายสูงและ ROAS สูง แต่ก็ยังตรวจสอบว่า ACOS ยังอยู่ใน ACOS เป้าหมายของตนหรือไม่ด้วย ในทางตรงกันข้าม พวกเขายังมองหาคำค้นหาที่มีประสิทธิภาพต่ำเพิ่มเติมด้วย ตัวอย่างเช่น จำนวนการแสดงผลของโฆษณา ยอดคลิก หรือยอดขายต่ำ หรือมี ACOS สูงกว่าปกติเมื่อมียอดคลิกสูงโดยไม่มียอดขาย
Hinzelman จดบันทึกคำค้นหาที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดและแย่ที่สุด เนื่องจากต้องนำมาใช้กับแคมเปญที่ระบุเป้าหมายด้วยตนเองในภายหลัง
ตามตัวอย่างนี้ Hinzelman ใส่คำว่า 'luftbett selbstaufblasend' (ยอดคลิกสูง, ยอดขายดี, ROAS ดี และ ACOS ใช้ได้) 'aufblasbares gästebett' (CTR ดี, ยอดขาย และ ROAS กับ ACOS พอรับได้) 'gäste schlaf luftmatratze' (ROAS และ ACOS ดีมาก แม้จะมีจำนวนการแสดงผลของโฆษณาต่ำ) ในรายการคำค้นหาประสิทธิภาพสูง พวกเขาได้เพิ่ม 'premium luftmatratze' (CTR และต้นทุนสูง แต่ไม่มียอดขาย บ่งชี้ว่าสินค้าอาจไม่ใช่สิ่งที่นักช้อปกำลังมองหาจริง ๆ) และ 'einfache luftmatratze' (แทบไม่มียอดคลิกและไม่มียอดขาย) ลงในรายการคำค้นหาประสิทธิภาพต่ำ
การสร้างแคมเปญของ Sponsored Products ที่มีการระบุเป้าหมายคีย์เวิร์ดด้วยตนเอง
จากนั้น Hinzelman จะสร้างแคมเปญของ Sponsored Products ใหม่โดยเลือกการกำหนดเป้าหมายเอง พวกเขาเลือกชื่อกลุ่มโฆษณาและสินค้าที่จะโฆษณา
หลังจากเลือกกลยุทธ์การประมูลแล้ว ถึงเวลาที่จะเลือกคีย์เวิร์ด เรื่องนี้อาจดูยุ่งยากเนื่องจาก Hinzelman ไม่ได้พูดภาษาเดียวกับตลาดที่ต้องการโฆษณา แต่ตอนนี้พวกเขาเตรียมพร้อมแล้ว
แน่นอน พวกเขาสามารถใช้การแนะนำคีย์เวิร์ดจาก Amazon Ads ได้ นอกจากนี้ยังสามารถป้อนคีย์เวิร์ดของตนเองด้วยรายการคำค้นหาสองรายการที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้ พวกเขาเพียงแค่คัดลอก/วางรายการคำค้นหาที่ทำงานได้ดีในแคมเปญอัตโนมัติลงในแท็บ 'ใส่คีย์เวิร์ดคำค้นหา' โดยใช้ประเภทการกำหนดเป้าหมายทั้งสามประเภท ทั้งแบบกว้าง แบบกลุ่มคำ และแบบแม่นยำ สำหรับแต่ละคำ ด้วยวิธีนี้ Hinzelman จะกำหนดการระบุเป้าหมายให้สามารถเข้าถึงนักช้อปด้วยคำค้นหาที่เกี่ยวข้องให้ได้มากกว่าการใช้เพียงคำที่จับคู่กันอย่างแม่นยำที่ปรากฏขึ้นมาในแคมเปญอัตโนมัติเพียงอย่างเดียว

การป้อนคีย์เวิร์ดสำหรับแคมเปญ
จากนั้นพวกเขาก็ได้คัดลอก/วางคีย์เวิร์ดทั้งหมดจากรายการคำค้นหาประสิทธิภาพต่ำ (เช่น คำที่มียอดคลิกมากแต่ไม่มียอดขาย เป็นต้น) ลงในช่องการกำหนดเป้าหมายคีย์เวิร์ดเชิงลบ โดยกำหนดค่าแม่นยำเชิงลบ วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าโฆษณาจะไม่ปรากฎขึ้นต่อหน้านักช้อปที่ใช้คีย์เวิร์ดเหล่านี้ จากนั้นพวกเขาก็เปิดตัวแคมเปญแบบดำเนินการด้วยตนเอง

การป้อนคำค้นหาที่มีประสิทธิภาพต่ำในการกำหนดเป้าหมายคำหลักเชิงลบ
การสร้างแคมเปญของ Sponsored Products ที่มีการระบุเป้าหมายสินค้าด้วยตนเอง
Hinzelman ทราบจากแคมเปญภายในประเทศว่า การกำหนดเป้าหมายเองจะช่วยให้สามารถกำหนดเป้าหมายสินค้า หมวดหมู่สินค้า หรือแบรนด์ที่คล้ายกับสินค้าในโฆษณาของตนได้ ซึ่งจะช่วยให้นักช้อปหาสินค้าเจอ เวลาเลือกดูหน้ารายละเอียดและหมวดหมู่สินค้า หรือตอนที่ค้นหาสินค้าบน Amazon
พวกเขาเลือกการกำหนดเป้าหมายเองตอนที่สร้างแคมเปญของ Sponsored Products ใหม่ จากนั้นเลือกตัวเลือก “การกำหนดเป้าหมายสินค้า” ใต้ราคาประมูลในส่วน “การระบุเป้าหมาย” คุณสามารถเลือกหมวดหมู่ที่แนะนำ หรือค้นหาหมวดหมู่สินค้าที่ต้องการระบุเป้าหมายได้ หมวดหมู่ต่าง ๆ จะปรากฎขึ้นเป็นภาษาที่คุณต้องการ ทำให้การเลือกหมวดหมู่ที่เหมาะสมสำหรับสินค้าแต่ละชิ้นทำได้ง่ายขึ้น

กำหนดเป้าหมายด้วยตนเองในโปรแกรมจัดการแคมเปญ
หากต้องการกำหนดเป้าหมายสินค้ารายการไหน พวกเขาก็สามารถเลือกสินค้าแนะนำหรือป้อน ASINs ของสินค้าที่คล้ายคลึงกับของตัวเองเข้าไปได้เลย พวกเขายังสามารถไม่รวมแบรนด์และสินค้าได้ หากไม่ต้องการเข้าถึงนักช้อปที่กำลังมองหาสินค้าเหล่านั้นโดยเฉพาะ
Hinzelman เลือกหมวดหมู่ที่นอนเป่าลม ที่นอน และเตียงลมสำหรับตั้งแคมป์ แล้วทำการเปิดตัวแคมเปญ
ลองใช้โปรแกรมจัดการแคมเปญ (ต้องลงชื่อเข้าใช้)
การเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญที่กำหนดเป้าหมายด้วยตนเอง
เมื่อตั้งค่าและดำเนินแคมเปญแล้ว Hinzelman ก็ต้องการดูประสิทธิภาพของแคมเปญ กุญแจสำคัญในที่นี้คือการมุ่งเน้นที่รายงานและเมทริกซ์สำคัญบางรายการ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขามีเวลาทำสิ่งนี้เป็นประจำ
เช่นเดียวกับแคมเปญอัตโนมัติ Hinzelman ตรวจสอบรายงานข้อความค้นหาเพื่อดูว่าคำใดที่นักช้อปใช้ในการค้นหาสินค้า พวกเขาเพิ่มคำที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นคีย์เวิร์ดเพิ่มเติมในแคมเปญที่กำหนดเป้าหมายเอง และเปรียบเทียบราคาคีย์สำหรับคีย์เวิร์ดประสิทธิภาพสูงเหล่านี้กับ CPC ของตน หากราคาประมูลใกล้เคียงกับ CPC พวกเขาสามารถเพิ่มการประมูลเพื่อดูว่ามีโอกาสได้รับจำนวนการแสดงผลของโฆษณาเพิ่มเติมหรือไม่ ในขณะที่พวกเขาต้องการเพิ่มการประมูลคีย์เวิร์ดประสิทธิภาพสูงสุด ราคาประมูลและช่วงการประมูลที่แนะนำก็เป็นประโยชน์มาก เนื่องจากมีการอัปเดตทุกวันและสะท้อนถึงความต้องการของท้องถิ่นในปัจจุบัน
พวกเขากำหนดคีย์เวิร์ดประสิทธิภาพต่ำ เช่น มี ACOS สูง เป็นคีย์เวิร์ดในเชิงลบ Hinzelman ตัดสินใจว่า เนื่องจากพวกเขากำลังเปิดตัวสินค้าในตลาดใหม่ พวกเขาจะยอมรับ ACOS ที่สูงกว่าแคมเปญในประเทศเล็กน้อย เพื่อช่วยเพิ่มการมองเห็นและการจดจำสินค้าในตอนต้น พวกเขาวางแผนที่จะลดเป้าหมาย ACOS ลงหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์
นอกจากนี้ Hinzelman ยังใช้รายงานการระบุเป้าหมายเพื่อดูว่าการจับคู่แต่ละประเภททำงานได้ดีขึ้นหรือแย่ลงสำหรับคีย์เวิร์ดแต่ละคำ สำหรับคีย์เวิร์ด 'luftbett selbstaufblasend' การจับคู่คีย์เวิร์ดแบบกว้างและการจับคู่แบบแม่นยำมีประสิทธิภาพดี มียอดขายดี และ ACOS ใช้ได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพคำเหล่านี้ Hinzelman เปลี่ยนการประมูลในแท็บการระบุเป้าหมายในโปรแกรมจัดการแคมเปญไปตามนั้น โดยใช้การประมูลที่แนะนำเป็นแนวทางว่าจะประมูลราคาเท่าใดเพื่อให้ยังคงแข่งขันได้ การจับคู่วลีมี ACOS สูงมาก พวกเขาจึงเลือกคีย์เวิร์ดและประเภทการจับคู่คีย์เวิร์ดแบบบผสมผสานแล้วหยุดไว้ชั่วคราว สำหรับคีย์เวิร์ด 'aufblasbares bett' ประเภทการจับคู่คีย์เวิร์ดแบบกว้างสร้างจำนวนการแสดงผลของโฆษณาและยอดคลิกจำนวนมาก แต่ไม่ได้นำไปสู่ยอดขายใด ๆ เลย Hinzelman จึงหยุดคีย์เวิร์ดและประเภทการจับคู่คีย์เวิร์ดแบบผสมผสานนี้ไว้ชั่วคราวเช่นกัน สำหรับการจับคู่แบบกลุ่มคำและการจับคู่แบบแม่นยำ พวกเขาตัดสินใจที่จะเพิ่มราคาประมูลเพื่อดูว่าจะสามารถสร้างจำนวนการแสดงผลของโฆษณาและยอดขายได้มากขึ้นหรือไม่
เมื่อลองดูแคมเปญที่กำหนดเป้าหมายสินค้าด้วยตนเอง พวกเขาตรวจสอบว่าหมวดหมู่ที่เลือกใช้งานได้ดีหรือไม่ในแง่ของยอดขายและ ACOS พวกเขาสามารถปรับแต่งการระบุเป้าหมายต่อไปตามราคาหรือการจัดอันดับคะแนน เพื่อช่วยให้มั่นใจว่าสินค้าของตนตรงความสนใจของนักช้อปยิ่งขึ้น
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญต่อไป พวกเขาจะลองใช้การระบุเป้าหมาย ASINs ประสิทธิภาพสูงจากแคมเปญอื่นของตนผ่านการกำหนดเป้าหมายสินค้า (ตัวอักษรและตัวเลขผสมกันจากคอลัมน์คำค้นหาของลูกค้าในรายงานข้อความค้นหาที่มียอดขายสูงและ ACOS ต่ำ) นอกจากนี้ พวกเขายังสามารถเลือก ASINs ประสิทธิภาพต่ำแล้วทำการระบุเป้าหมายเชิงลบได้ด้วย
รวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน: การเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญเพื่อความสำเร็จในระยะยาว
เพื่อให้ทันกับเทรนด์การช้อปปิ้งในท้องถิ่นและเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนให้ได้สูงสุด Hinzelman จึงทำการตรวจสอบรายงานและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญต่าง ๆ ให้เหมาะสมอย่างน้อยทุกสองสัปดาห์ พวกเขาจะดูรายงานข้อความค้นหาเป็นประจำเพื่อค้นหาคีย์เวิร์ดใหม่ที่จะนำมาเพิ่มในแคมเปญด้วยตนเอง และคำค้นหาใหม่ที่จะยกเว้นผ่านการระบุเป้าหมายเชิงลบ รายงานการระบุเป้าหมายทำให้พวกเขาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญที่กำหนดเป้าหมายเอง โดยใช้คำแนะนำในการประมูลเพื่อเป็นแนวทางการปรับราคาประมูลของตน
การปรับเปลี่ยนง่าย ๆ เพียงเล็กน้อยเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญในต่างประเทศให้ประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ ในทีมยังคงไม่มีใครที่พูดภาษาเยอรมัน แต่พวกเขาค่อนข้างมั่นใจมากขึ้นเมื่อได้ใช้รายงานข้อความค้นหาในการช่วยแนะนำกลยุทธ์คีย์เวิร์ดสำหรับแคมเปญที่กำหนดเป้าหมายเอง อันที่จริง พวกเขามั่นใจมากจนตัดสินใจเปิดตัวแคมเปญอัตโนมัติในอิตาลีและสเปนเป็นครั้งแรก เพื่อโฆษณาในทุกตลาดที่ขาย
นี่คือวิธีที่ Hinzelman สร้างกลยุทธ์การโฆษณาแบบหลายตลาดอย่างง่าย
ถ้าพวกเขาทำได้ คุณก็ทำได้
- เริ่มต้นด้วยการเปิดตัวแคมเปญของ sponsored products ที่ระบุเป้าหมายอัตโนมัติ
- หลังจากผ่านไปสองสัปดาห์ ใช้รายงานข้อความค้นหาเพื่อสร้างรายการคำค้นหาที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดและแย่ที่สุด
- สร้างแคมเปญการระบุเป้าหมายคีย์เวิร์ดด้วยตนเองโดยใช้รายการคีย์เวิร์ดสองรายการ
- สร้างแคมเปญการกำหนดเป้าหมายสินค้าด้วยตนเอง
- ตรวจสอบคำค้นหาและรายงานการระบุเป้าหมายอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งแล้วปรับแคมเปญของคุณให้เหมาะสม
เป็นผู้โฆษณาที่ลงทะเบียนแล้วใช่หรือไม่ ลงชื่อเข้าใช้