คู่มือ
การมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย
กลยุทธ์ที่พิสูจน์แล้วสำหรับการกระตุ้นปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าแบบมีความหมาย
การมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายคือความสามารถในการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ เรียนรู้กลยุทธ์ในการทำสิ่งนี้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยส่งเสริมความไว้วางใจ ยอดขาย และความภักดีของลูกค้า
เริ่มใช้ Amazon Ads สำหรับความต้องการด้านการโฆษณาของคุณ
ขอรับบริการที่มีการจัดการของเรา มีข้อกำหนดด้านงบประมาณขั้นต่ำ
เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกของ Amazon
สังเกตและเพิ่มประสิทธิภาพทุกการแสดงผลต่อกลุ่มเป้าหมาย
การมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายคือกลยุทธ์ในการทำให้ผู้บริโภคเชื่อมโยงกับแบรนด์ของคุณ แนวทางนี้ไม่ได้เน้นแค่การดึงดูดความสนใจเท่านั้น แต่ยังมุ่งสร้างปฏิสัมพันธ์ที่มีความหมาย กระตุ้นการกระทำ และสร้างความชื่นชอบ ผ่านกลยุทธ์หลากหลายรูปแบบ เช่น การส่งเสริมการขาย โฆษณาแบบโต้ตอบ การช้อปปิ้งทางสตรีมสด การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ และอื่น ๆ
การมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายคืออะไร
การมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย คือระดับที่ลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าเป้าหมายมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์และเนื้อหาของคุณ ผู้โฆษณาควรผนวกกลยุทธ์สร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายในทุกช่วงของ Funnel เนื่องจากแนวทางนี้ช่วยสนับสนุนเป้าหมายการตลาดได้ครบทุกระดับ
เหตุใดการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายจึงสำคัญ
การมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายมีความสำคัญเพราะช่วยให้ผู้โฆษณาโดดเด่นท่ามกลางสื่อจำนวนมากได้ หากทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลยุทธ์สร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายจะเปลี่ยนผู้สังเกตให้กลายเป็นผู้มีส่วนร่วมกับแบรนด์ของคุณอย่างกระตือรือร้น การมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายมักเป็นก้าวแรกในการแสดงให้เห็นถึงคุณค่าและความสอดคล้องของแบรนด์ ช่วยนำไปสู่ความสัมพันธ์กับลูกค้าที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งขับเคลื่อนผลลัพธ์ได้แบบเต็ม Funnel
ประโยชน์ของการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายคืออะไร
การเพิ่มการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายมีประโยชน์มากมาย เช่น เพิ่มการมองเห็น ความน่าเชื่อถือ การจดจำแบรนด์ ข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมาย และความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า
สิทธิประโยชน์ #1: การมองเห็น
กลุ่มเป้าหมายที่มีส่วนร่วมมีแนวโน้มจะแชร์เนื้อหาของคุณ ซึ่งช่วยขยายการเข้าถึงแบรนด์มากขึ้น ยิ่งกลุ่มเป้าหมายขยายข้อความของแบรนด์มากเท่าไร แบรนด์ของคุณก็จะได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นเท่านั้น
สิทธิประโยชน์ #2: ความน่าเชื่อถือ
ระดับการมีส่วนร่วมที่สูงบนโซเชียลมีเดียและช่องทางอื่น ๆ ทำหน้าที่เป็นหลักฐานทางสังคม ซึ่งช่วยเสริมความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของคุณ และช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่มากขึ้น จากรายงานของ TrustPulse พบว่าผู้บริโภคเฉลี่ยอ่านรีวิวจากลูกค้า 10 รีวิวก่อนตัดสินใจซื้อ โดยรีวิวสินค้าออนไลน์สามารถเพิ่มอัตราคอนเวอร์ชันได้ถึง 270%1
สิทธิประโยชน์ #3: การจดจำแบรนด์
การมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายอย่างสม่ำเสมอมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างการจดจำและการรับรู้แบรนด์ให้แข็งแกร่งขึ้น เมื่อกลุ่มเป้าหมายมีปฏิสัมพันธ์กับเนื้อหาของคุณอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าชม แสดงความคิดเห็น แชร์ หรือกดถูกใจ พวกเขาจะสร้างการเชื่อมโยงทางความคิดที่แข็งแกร่งกับแบรนด์ของคุณ และมีแนวโน้มที่จะชื่นชอบคุณที่สุดเมื่อตัดสินใจซื้อสินค้า
สิทธิประโยชน์ #4: ข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมาย
การมีส่วนร่วมกับเนื้อหาของคุณ จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายได้รับข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าในด้านความต้องการ ความชื่นชอบ ค่านิยม พฤติกรรมการใช้สื่อ และจุดที่เป็นปัญหาของพวกเขา โดยอาศัยข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ นักการตลาดสามารถพัฒนากลยุทธ์การโฆษณาและผลงานสร้างสรรค์ที่มีแนวโน้มจะตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น และผลักดันผลลัพธ์ได้ดีขึ้น
สิทธิประโยชน์ #5: ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน
การมีส่วนร่วมที่แข็งแกร่งช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจในแบรนด์และความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาวกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ ลูกค้าที่มีส่วนร่วมมีแนวโน้มที่จะภักดีต่อแบรนด์ของคุณและกลายเป็นผู้สนับสนุนที่ช่วยบอกต่อ
ทฤษฎีการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายคืออะไร
ทฤษฎีการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายเป็นแนวคิดที่คิดค้นโดย Jeremy Tunstall นักเขียนผู้ล่วงลับ ซึ่งระบุว่ากลุ่มเป้าหมายและสื่อมีความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ตามทฤษฎีการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายนั้น กลุ่มเป้าหมายทำหน้าที่เป็นผู้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในเนื้อหาที่พวกเขาบริโภค (ไม่ใช่แค่ผู้สังเกตการณ์เงียบ ๆ) ทฤษฎีนี้ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มเป้าหมายนำเอาภูมิหลัง ประสบการณ์ และแรงจูงใจของตน มาสู่กระบวนการมีส่วนร่วม ซึ่งส่งผลต่อวิธีที่พวกเขามีส่วนร่วมและค้นหาความหมายในสื่อ
จากทฤษฎีนี้ การมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายมีสามประเภท
การมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายระดับปฐมภูมิ
การมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายระดับปฐมภูมิ คือการมีส่วนร่วมที่กลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจอย่างเต็มที่และมุ่งมั่นกับสื่อที่กำลังบริโภค โดยประมวลผลข้อมูลอย่างกระตือรือร้น ตัวอย่างของการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายระดับปฐมภูมิ คือการโฆษณาเชิงโต้ตอบที่กลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมโดยตรงกับประสบการณ์โฆษณา ผ่านองค์ประกอบที่ดื่มด่ำ เช่น แบบสำรวจและแบบทดสอบ ความจริงเสริม และโฆษณาในเกม
การมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายระดับทุติยภูมิ
การมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายระดับทุติยภูมิ คือประเภทการมีส่วนร่วมที่กลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจน้อยลง โดยมักทำหลายสิ่งพร้อมกันหรือรับข้อมูลหลายอย่างในเวลาเดียวกัน ตัวอย่างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายระดับทุติยภูมิ ได้แก่ การฟังโฆษณาเสียงขณะขับรถ หรือการดูโฆษณาสตรีมมิ่งทีวีขณะชมรายการโทรทัศน์และเล่นโทรศัพท์ไปด้วย แม้ว่าการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายระดับทุติยภูมิจะไม่ต้องการความสนใจอย่างเข้มข้นเหมือนระดับปฐมภูมิ แต่โดยทั่วไปจะให้การเข้าถึงที่กว้างกว่า
การมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายตติยภูมิ
การมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายระดับตติยภูมิ คือการมีส่วนร่วมที่กลุ่มเป้าหมายได้รับข้อความอย่างผ่าน ๆ และอาจไม่ได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของข้อความนั้น ตัวอย่างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายระดับตติยภูมิ ได้แก่ การขับรถผ่านป้ายโฆษณา หรือการเห็นโฆษณาขณะเลื่อนดูฟีดโซเชียลมีเดีย เช่นเดียวกับการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายระดับทุติยภูมิ แนวทางนี้ช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้นได้เช่นกัน
กลยุทธ์การมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายสำหรับแบรนด์
มีวิธีการหลายวิธีที่แบรนด์สามารถนำกลยุทธ์สร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายไปใช้ในการตลาดได้ เช่น วิธีต่อไปนี้
การส่งเสริมการขายเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้มีส่วนร่วมกับเนื้อหาของคุณและเพิ่มการมีส่วนร่วม หากต้องการก้าวไปอีกขั้น ลองพิจารณาเสนอส่วนลดจำกัดเวลาให้กับผู้บริโภคที่มีส่วนร่วมกับโฆษณาของคุณ เช่น ดาวน์โหลดโปรแกรมสาธิต ตอบแบบสำรวจ หรือโหวตความคิดเห็น
โฆษณาแบบโต้ตอบช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมและมีอิทธิพลโดยตรงต่อประสบการณ์โฆษณาแบบเรียลไทม์ ตัวอย่างโฆษณาแบบโต้ตอบได้แก่ โฆษณาแบบเล่นได้, โฆษณาที่มีรหัส QR, โฆษณาที่ใช้เทคโนโลยีความจริงเสริม และโฆษณาที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียง
คำรับรองจากลูกค้า
คำรับรองจากลูกค้าช่วยให้แบรนด์มีโอกาสนำเสนอตัวอย่างที่เกี่ยวข้องว่า สินค้าและ/หรือบริการของคุณจะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายอย่างไร กลยุทธ์การมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายนี้อาจรวมถึงวิธีการต่าง ๆ เช่น การแชร์วิดีโอสั้น, โฆษณา Carousel หรือโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ที่นำเสนอเรื่องราวและประสบการณ์จริงจากลูกค้า
ความร่วมมือและสตรีมสด
การร่วมมือกับครีเอเตอร์ การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ และการสตรีมสด เป็นกลยุทธ์สร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายที่ช่วยให้แบรนด์สร้างการเชื่อมโยงที่แท้จริงกับฐานลูกค้าหลักของตนได้ บริการสตรีมมิ่งแบบสด เช่น Twitch และ Amazon Live ช่วยให้แบรนด์สามารถทำงานร่วมกับครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์แบบเรียลไทม์ ผ่านการสนับสนุนและเนื้อหาที่มีแบรนด์ ซึ่งยังสามารถขยายผลผ่านโซเชียลมีเดียต่อไปได้อีกด้วย
แคมเปญนอกบ้าน
แคมเปญโฆษณานอกบ้าน เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการขยายขอบเขตการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย Amazon Ads ร่วมงานกับแบรนด์หลากหลายแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ (รวมถึงแบรนด์ที่ไม่ได้ขายสินค้าบน Amazon โดยตรง) เพื่อค้นหาวิธีสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคผ่านตำแหน่งโฆษณาต่าง ๆ เช่น โฆษณาบนบรรจุภัณฑ์ ป้ายดิจิทัล และการตกแต่งตู้ล็อกเกอร์
เคล็ดลับสำหรับการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย
แบรนด์จึงควรมีความตั้งใจและสม่ำเสมอในแนวทางการสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย พิจารณาเคล็ดลับต่อไปนี้สำหรับวิธีสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
พิจารณาสัญญาณจากลูกค้า
แบรนด์จะสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้นหากเข้าใจความต้องการ ค่านิยม และความชื่นชอบที่ช่วยขับเคลื่อนการตัดสินใจซื้อของลูกค้าหลักของตน สัญญาณการซื้อ การท่องเว็บ และการสตรีมที่แท้จริงนับล้านล้านรายการของ Amazon มอบมุมมองแบบองค์รวมที่ครบถ้วนและเป็นหนึ่งเดียวเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย ช่วยให้ผู้โฆษณาเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าและส่งมอบข้อความโฆษณาได้อย่างแม่นยำมากขึ้นเพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่มีความหมาย
สร้างคุณค่าในทุกปฏิสัมพันธ์
กลยุทธ์สร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายมักได้ผลดีที่สุดเมื่อสามารถสร้างคุณค่าให้กับกลุ่มเป้าหมายในทุกปฏิสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูล ความบันเทิง หรือการยืนยันความคิด ความกังวล หรือการตัดสินใจของพวกเขา แนวทางที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลางนี้ช่วยให้แบรนด์ได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้น ทั้งในกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
สร้างความเกี่ยวข้อง
กลุ่มเป้าหมายมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมกับแบรนด์ที่พวกเขารู้สึกเชื่อมโยงได้ เช่น เพราะมีค่านิยม ความชื่นชอบ หรือความสัมพันธ์ที่คล้ายคลึงกัน การวิจัยจากรายงานผลกระทบที่สูงขึ้น ปี 2025 ของ Amazon Ads สนับสนุนความสัมพันธ์นี้ โดยพบว่า 79% ของผู้บริโภคทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าหรือบริการจากแบรนด์ที่มีค่านิยมสอดคล้องกับตน2 นอกจากนี้ แนวคิดเรื่องความสนใจแบบคัดเลือกยังชี้ให้เห็นว่าผู้คนมีแนวโน้มที่จะจดจำข้อมูลที่สอดคล้องกับความต้องการ ความเชื่อ ความสนใจ และค่านิยมของตนเองมากกว่า
ทำให้การมีส่วนร่วมเป็นเรื่องง่ายและคุ้มค่า
เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ ควรเข้าถึงลูกค้าในช่องทางที่พวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ เช่น สตรีมมิ่งทีวี สตรีมมิ่งเสียง Twitch และลำโพงอัจฉริยะ ลองพิจารณานำกลยุทธ์ที่ช่วยกระตุ้นการซื้อและสร้างความภักดีซ้ำ เช่น โปรแกรมสะสมคะแนน ส่วนลด และข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ มาใช้
แสดงผลกระทบ
การพูดว่าแบรนด์ของคุณสร้างผลกระทบได้นั้นเป็นเรื่องหนึ่ง แต่เพื่อโน้มน้าวกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพว่าสินค้าหรือบริการของคุณเป็นประโยชน์ต่อพวกเขา คุณต้องแสดงให้เห็นด้วย ลองพิจารณาใช้สถิติที่น่าสนใจ คำรับรองจากลูกค้า และเนื้อหาที่สร้างโดยผู้ใช้ มาผนวกในเรื่องราวของแบรนด์ เพื่อช่วยยืนยันคุณค่าที่คุณมอบให้แก่ผู้บริโภค การนำเสนอผลลัพธ์อย่างต่อเนื่องช่วยให้คุณแสดงความโปร่งใส และช่วยรักษาความไว้วางใจจากลูกค้าไว้ได้
ตัวอย่างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย
รับแนวคิดและแรงบันดาลใจจากตัวอย่างแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์สร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายดังต่อไปนี้
กรณีศึกษา
Nissan UK และพาร์ทเนอร์ตัวแทนโฆษณา Dark Horses ได้สร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายในระดับลึกผ่านการเน้นค่านิยม ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ “Dare to Defy” ซึ่งเป็นสารคดีชุดสามตอนบน Prime Video ที่เน้นโครงการ Nissan Possibilities Project โดยร่วมมือกับ Richard Whitehead Foundation และ Sported UK โครงการนี้ช่วยให้ผู้คนทั่วสหราชอาณาจักรได้ก้าวข้ามอุปสรรคในการเข้าร่วมกิจกรรมกีฬา องค์ประกอบของแคมเปญประกอบด้วยหน้าแบบกำหนดเองบน Fire TV ที่มีวิดีโอตัวอย่างตอนต่าง ๆ (ซึ่งสามารถดูได้บน YouTube ด้วย) รวมถึงกิจกรรมดูพร้อมกันบน Twitch โดยมีครีเอเตอร์ Brooke Lawson (@DexterityBonus) ร่วมเป็นเจ้าภาพ
กรณีศึกษา
ต่อยอดจากโฆษณาที่โดดเด่นสำหรับงาน Big Game ปี 2024 ของ e.l.f. แบรนด์เครื่องสำอาง e.l.f. ร่วมมือกับ Amazon Ads เพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดแบบเต็ม Funnel ที่สร้างสรรค์ โดยใช้แรงบันดาลใจจากกระแสวัฒนธรรมของรายการโทรทัศน์แนวห้องพิจารณาคดีในศาล เพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย แคมเปญรวมถึงการสนับสนุนของ Freevee แบบกำหนดเองเป็นครั้งแรกซึ่งเป็นการนำรายการทีวีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากห้องพิจารณาคดีในศาลมาให้ผู้ชม Freevee ทุกคนได้รับชม (รวมถึง Judy Justice ซีรีส์เรียลลิตี้ของ Freevee ที่ได้รับรางวัล Emmy) โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่มีโฆษณาคั่นในแบบจำกัด แบรนด์ความงามนี้ยังใช้ประโยชน์จากโฆษณา Prime Video เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องควบคู่ไปกับเนื้อหาความบันเทิงระดับพรีเมียม และสุดท้าย ทีมงานได้ออกแบบ Amazon Store ของ e.l.f. ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้มีเนื้อหาสร้างสรรค์จากโฆษณา Big Game ที่มีผู้ชมเป็นจำนวนมาก
กรณีศึกษา
Nespresso ต้องการออกแบบปลายทางสำหรับนักช้อป ที่จะสร้างประสบการณ์ที่จับต้องได้จากวิสัยทัศน์ของแบรนด์และสินค้าของตน เป้าหมายนี้เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาออกแบบร้านค้าแบรนด์ Nespresso ซึ่งเป็นหน้าร้าน Amazon ที่มีเครื่องมือในตัว เช่น รูปภาพที่สามารถช้อปได้และไทล์ผลิตภัณฑ์ คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยดึงดูดความสนใจของนักช้อปและกระตุ้นให้พวกเขาซื้อสินค้า หน้าร้านนี้ยังมีภาพไลฟ์สไตล์ วิดีโอ และเนื้อหาที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถันให้สอดคล้องกับเอกลักษณ์ของแบรนด์ Nespresso (แตกต่างจากภาพสินค้าสำเร็จรูปทั่วไป) และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นต่อคุณภาพและความยั่งยืน
กรณีศึกษา
Comfort มีตำนานมากกว่า 50 ปีในการดูแลผ้าสำหรับครอบครัว Unilever เข้าใจดีว่าเสื้อผ้าไม่ใช่เพียงแค่เนื้อผ้า แต่เป็นส่วนสำคัญของอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของผู้บริโภค ดังนั้น เพื่อร่วมในโอกาสเดือนรอมฎอน บริษัทน้ำยาปรับผ้านุ่มจึงได้เปิดตัวน้ำหอมกลิ่นลิมิเต็ดเอดิชันในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดิอาระเบีย พร้อมสนับสนุนด้วยแคมเปญเต็ม Funnel แคมเปญนี้รวมถึงการออกแบบถุงจัดส่งสินค้า Amazon Fresh ใหม่ให้กลายเป็นโฆษณาแบบเคลื่อนที่ที่มีสีสันสำหรับ Comfort โดยแต่ละดีไซน์มีรหัสคูปองและรหัส QR ที่นำไปยังร้านค้าแบรนด์บน Amazon วิธีการนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการจัดส่งทุกครั้งจะสร้างความประทับใจอย่างแรงกล้าต่อลูกค้า และกระตุ้นให้เกิดเส้นทางดิจิทัลที่ราบรื่นซึ่งขยายต่อจากจุดสัมผัสทางกายภาพครั้งแรก
กรณีศึกษา
Baci Perugina แบรนด์ขนมหวานท้องถิ่นจากอิตาลีภายใต้บริษัท Nestlé ต้องการสร้างแคมเปญที่น่าจดจำเพื่อกระตุ้นการจดจำแบรนด์และการมีส่วนร่วมของลูกค้าในช่วงสองสัปดาห์ก่อนถึงวันวาเลนไทน์ ในการดำเนินการดังกล่าว Nestlé ได้ร่วมมือกับ Amazon Ads เพื่อสร้างการสนับสนุนตามฤดูกาลกับ Alexa เป็นครั้งแรก ทีม Alexa ช่วยให้ Nestlé พัฒนาทักษะ Alexa สำหรับ Baci Perugina เพื่อที่ทุกครั้งเมื่อลูกค้าขอให้ "Alexa แกะ Bacio" Alexa จะตอบกลับด้วยข้อความและกลุ่มคำโรแมนติกเพื่อเป็นสัญญาณถึงวันหยุดช่วงวันวาเลนไทน์ที่กำลังจะมาถึง พร้อมทั้งโปรโมตสินค้าของแบรนด์ไปด้วย
วิธีสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายด้วย Amazon Ads
Amazon Ads มีเครื่องมือและทรัพยากรสำหรับสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายหลากหลายรูปแบบ เพื่อช่วยให้แบรนด์เชื่อมต่อกับลูกค้า
ช่องทางการตลาดที่หลากหลายของเราช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถส่งมอบประสบการณ์ลูกค้าที่สม่ำเสมอ บูรณาการ และมีส่วนร่วมได้ในทุกจุดที่ผู้บริโภคใช้เวลาอยู่ ทั้งสตรีมมิ่งทีวี สตรีมสด และแอปเสียงต่าง ๆ รวมถึงร้านค้าทั้งแบบดิจิทัลและแบบออฟไลน์
โซลูชันโฆษณาที่หลากหลายของเราสามารถช่วยให้คุณเข้าถึงนักช้อปได้ในช่วงเวลาสำคัญ ด้วยแคมเปญที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วมสำหรับธุรกิจทุกขนาดและทุกงบประมาณ เราสนับสนุนทุกส่วนของการวางแผนสื่อ เพื่อช่วยให้คุณบรรลุผลลัพธ์ในทุกขั้นตอนของ Funnel การขาย
สัญญาณกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกรรมสิทธิ์หลายพันล้านรายการและเครื่องมือที่ใช้ง่ายมากมายทำให้ Amazon Ads สามารถช่วยคุณสร้างกลยุทธ์กลุ่มเป้าหมายที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงลึก เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายมากขึ้น แบรนด์สามารถใช้ประโยชน์จากโซลูชันของเรา เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมาย ขยายการเข้าถึง ทำการตลาดซ้ำกับลูกค้าที่ภักดี หรือปรับแคมเปญให้เหมาะสม
รักษาการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการเข้าถึงการตรวจวัดตัวชี้วัดที่หลากหลาย โดยอิงจากการรายงานของบุคคลที่หนึ่งและบุคคลที่สาม ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและปรับการโฆษณาให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มผลกระทบให้มากขึ้นได้
ทรัพยากรเพิ่มเติม
ที่มา
1 TrustPulse Social Proof Statistics Report, 2023
2 การวิจัยแบบกำหนดเองของ Amazon Ads ร่วมกับ Environics Research 2025 Higher Impact สำรวจในเดือนธันวาคม 2024 ข้อมูลสะท้อนจากการรวบรวมผลในประเทศแคนาดา สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ผู้ตอบแบบสอบถามตามประเทศที่สำรวจ: แคนาดา: 1,042, สหราชอาณาจักร: 1,036, สหรัฐอเมริกา: 1,033 รวม n=3,111 การเปรียบเทียบแบบปีต่อปีสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถามในแต่ละภูมิภาค โดยในปี 2023 มีการสำรวจในประเทศแคนาดา เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ในปี 2024 มีการสำรวจผู้บริโภคในแคนาดา สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา