คู่มือ
วิดีโอตามโปรแกรม
คืออะไร ทำงานอย่างไร และจะเริ่มต้นใช้งานอย่างไร
วิดีโอตามโปรแกรม คือการซื้อและขายพื้นที่โฆษณาวิดีโอโดยอัตโนมัติผ่านระบบการประมูลที่ใช้อัลกอริทึมและการเสนอราคาแบบเรียลไทม์ เทคโนโลยีนี้ช่วยลดความยุ่งยากของกระบวนการซื้อตำแหน่งโฆษณาวิดีโอแบบเดิมที่ต้องทำด้วยมือ โดยเปิดโอกาสให้ผู้โฆษณาสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านหลายช่องทาง
เริ่มใช้ Amazon Ads เพื่อแสดงสินค้าและสร้างแคมเปญของคุณ
หากคุณมีประสบการณ์จำกัด โปรดติดต่อเราเพื่อขอรับบริการแบบมีการจัดการโดย Amazon Ads มีข้อกำหนดด้านงบประมาณขั้นต่ำ
Sponsored TV เป็นโซลูชันการโฆษณาแบบบริการตนเองที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้แบรนด์สามารถเข้าถึงและสร้างแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มเป้าหมายบนหน้าจอที่ใหญ่ที่สุดในบ้าน
Amazon DSP เป็นแพลตฟอร์มด้านอุปสงค์ที่ช่วยให้คุณซื้อโฆษณาด้วยโปรแกรม เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่และกลุ่มเป้าหมายเดิมบน Amazon ตลอดจนแอปและเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม
ข้ามไปยัง:
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:
วิดีโอตามโปรแกรมคืออะไร
การโฆษณาวิดีโอตามโปรแกรม ซึ่งมักเรียกว่าวิดีโอตามโปรแกรม คือการใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติเพื่อซื้อพื้นที่โฆษณาวิดีโอดิจิทัลบนเว็บไซต์ แอป และบริการสตรีมมิ่ง วิดีโอตามโปรแกรมเป็นชุดย่อยของการโฆษณาแบบตั้งโปรแกรมที่มุ่งเน้นไปที่เนื้อหาวิดีโอโดยเฉพาะ ทำให้ผู้โฆษณา สามารถส่งมอบข้อความด้วยภาพที่น่าสนใจให้กับกลุ่มเป้าหมายได้โดยไม่ต้องเจรจาต่อรองกับผู้เผยแพร่โดยตรง วิดีโอตามโปรแกรมใช้แมชชีนเลิร์นนิ่งและข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพตำแหน่งโฆษณาเพื่อประสิทธิภาพและผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีขึ้น
วิดีโอตามโปรแกรมได้ปฏิวัติวิธีการที่แบรนด์เข้าสู่ การตลาดวิดีโอ โดยแทนที่ลำดับการแทรกคำสั่งซื้อแบบดั้งเดิมด้วย เทคโนโลยีการโฆษณา ที่สามารถปรับแต่งตำแหน่งโฆษณาให้เหมาะสมได้ภายในเวลาไม่กี่มิลลิวินาที ระบบอัตโนมัตินี้ไม่เพียงเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยควบคุมการเข้าถึงและความถี่ของกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ทำให้เป็นระบบอัตโนมัตินี้เป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากยิ่งขึ้นต่อกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่ครอบคลุม
วิดีโอตามโปรแกรมทำงานอย่างไร
วิดีโอตามโปรแกรมทำงานผ่านระบบอัตโนมัติที่เชื่อมต่อระหว่างผู้โฆษณากับผู้เผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มด้านอุปสงค์(DSP) และแพลตฟอร์มด้านอุปทาน(SSP) เพื่อซื้อพื้นที่โฆษณาดิจิทัล บนเว็บ มือถือ แอป วิดีโอ และโซเชียลมีเดีย เมื่อผู้ใช้เยี่ยมชมเว็บไซต์หรือแอปที่มีพื้นที่โฆษณาวิดีโอ ผู้เผยแพร่จะส่งคำขอเสนอราคาไปยังผู้โฆษณาหลายรายการ และอัลกอริทึมจะประเมินค่าจำนวนการแสดงผลของโฆษณาตามสัญญาณที่หลากหลาย ผู้เสนอราคาสูงสุดจะมีโอกาสในการแสดงโฆษณาวิดีโอ ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ขณะที่โหลดหน้าเว็บ ระบบอัตโนมัตินี้มีประสิทธิภาพและความแม่นยำในการส่งโฆษณาวิดีโอ ทำให้ผู้โฆษณาสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยการส่งข้อความที่เกี่ยวข้องในขณะที่ผู้เผยแพร่สามารถเพิ่มมูลค่าพื้นที่โฆษณาด้วยรูปแบบการกำหนดราคาแบบไดนามิก
กระบวนการซื้อวิดีโอตามโปรแกรมประกอบด้วยเทคโนโลยีและผู้มีส่วนร่วมหลายฝ่ายที่ทำงานร่วมกัน เพื่อส่งมอบข้อความที่เหมาะสมให้กับลูกค้าที่ใช่ ในเวลาที่เหมาะสม มาดูกันทีละขั้นตอน:
ขั้นตอนที่ 1: มีพื้นที่โฆษณา
ผู้เผยแพร่จะต้องเตรียมพื้นที่โฆษณาวิดีโอให้พร้อมใช้งานผ่าน SSP ซึ่งรวมพื้นที่โฆษณาในเว็บไซต์ แอป และบริการสตรีมมิ่งต่าง ๆ พื้นที่โฆษณานี้ครอบคลุมรูปแบบวิดีโอต่าง ๆ เช่น ตำแหน่งโฆษณาก่อนเล่นวิดีโอหลัก โฆษณาคั่นกลาง และโฆษณาเอาท์สตรีม
ขั้นตอนที่ 2: ผู้โฆษณาตั้งค่าพารามิเตอร์การระบุเป้าหมาย
ผู้โฆษณาใช้ DSP อย่างAmazon DSP เพื่อกำหนดเป้าหมายแคมเปญ งบประมาณ และกลุ่มเป้าหมายตามสัญญาณที่เกี่ยวข้อง DSP จะทำการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดเกี่ยวกับโฆษณาที่จะนำมาแสดงโดยพิจารณาจากสิ่งที่ผู้โฆษณาต้องการบรรลุและจำนวนเงินที่พวกเขาเต็มใจที่จะจ่ายต่อ ต้นทุนต่อการแสดงผลพันครั้ง (CPM) ซึ่งเป็นเงื่อนไขการโฆษณาต่อการแสดงผลหนึ่งพันรายการ
ขั้นตอนที่ 3: การประมูลแบบเรียลไทม์จะเกิดขึ้น
เมื่อผู้ใช้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่มีพื้นที่โฆษณาวิดีโอว่างอยู่ ระบบจะเริ่มกระบวนการประมูลทันที SSP ของผู้เผยแพร่จะส่งคำขอประมูลราคาไปยัง DSP หลายแห่ง รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ (ตามแนวทางความเป็นส่วนตัว) และตำแหน่งโฆษณา DSP ของผู้โฆษณาจะประเมินมูลค่าของจำนวนการแสดงผลของโฆษณาโดยอัตโนมัติ โดยพิจารณาจากความสอดคล้องของผู้ใช้กับเกณฑ์การระบุเป้าหมายที่ตั้งไว้ จำนวนเงินที่ประมูลราคาจะขึ้นอยู่กับอัตรา CPM ที่ผู้โฆษณาตกลงไว้ ซึ่งอัตรานี้อาจแตกต่างกันไปตามความเฉพาะเจาะจงของการระบุเป้าหมายและประเภทของตำแหน่งโฆษณา
ขั้นตอนที่ 4: โฆษณาที่ชนะการประมูลจะปรากฎขึ้นมา
ผู้โฆษณาที่มีความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและมูลค่าการประมูลราคาที่ดีที่สุดจะชนะการประมูล และโฆษณาวิดีโอของพวกเขาจะถูกแสดงให้ผู้ใช้เห็นทันที กระบวนการทั้งหมดนี้ ตั้งแต่ผู้ใช้โหลดหน้าเพจไปจนเห็นโฆษณา จะเกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่มิลลิวินาทีผ่านเทคโนโลยีการประมูลราคาแบบเรียลไทม์
ขั้นตอนที่ 5: ประสิทธิภาพถูกตรวจวัดและปรับให้เหมาะสม
หลังจากแสดงโฆษณาวิดีโอตามโปรแกรมแล้ว จะมีการเก็บรวบรวมตัวชี้วัดประสิทธิภาพ ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมูลในอนาคตและปรับกลยุทธ์การระบุเป้าหมาย ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญอย่างต่อเนื่องเมื่อเวลาผ่านไป โซลูชันการตรวจวัดต่าง ๆ เช่น ระบบคลาวด์การตลาดของ Amazon (AMC) ชจะ่วยเพิ่มความสามารถในการมองเห็นข้อมูล ทำให้ผู้โฆษณาสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างกลุ่มเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย โดยอ้างอิงจากสัญญาณข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตน ซึ่งรวมถึงสัญญาณจาก Amazon Ads และข้อมูลของผู้โฆษณาเอง
ประโยชน์ของการโฆษณาวิดีโอตามโปรแกรมคืออะไร
โฆษณาวิดีโอตามโปรแกรมมีข้อดีมากมายที่ทำให้เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นสำหรับแบรนด์ที่ต้องการเพิ่มผลกระทบด้านการตลาดดิจิทัล ตั้งแต่การเข้าถึงที่เพิ่มขึ้นไปจนถึงการวิเคราะห์โดยละเอียด ประโยชน์เหล่านี้ช่วยให้ผู้โฆษณาบรรลุผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในขณะที่ยังสามารถควบคุมต้นทุนไว้ได้
ความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำขึ้น
วิดีโอตามโปรแกรมจะทำการเชื่อมโยงแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องในผู้เผยแพร่หลายหลายเจ้าโดยใช้สัญญาณที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงลึก วิธีการนี้จะช่วยส่งเนื้อหาไปยังกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมมากกว่า ซึ่งจะเป็นการลดจำนวนการแสดงผลของโฆษณาที่สูญเปล่าและช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญ
การเข้าถึงที่กว้างขวางขึ้น
ผู้โฆษณาสามารถเข้าถึงพื้นที่โฆษณาบนแพลตฟอร์มหลายแพลตฟอร์มพร้อมกันตั้งแต่ทีวีที่ ทีวีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (CTV) และ บริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (OTT) ไปจนถึงมือถือและเว็บไซต์ ช่วยให้ส่งข้อความสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าพวกเขาจะรับชมเนื้อหาวิดีโอจากที่ใดก็ตาม
การเพิ่มประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์
โซลูชันที่ตั้งโปรแกรมจะส่งมอบข้อมูลเชิงลึกด้านประสิทธิภาพในแบบทันที ช่วยให้สามารถปรับแคมเปญได้อย่างต่อเนื่อง อัลกอริทึมจะทำการปรับแต่งกลยุทธ์การประมูลและการจัดสรรงบประมาณโดยอัตโนมัติตามตัวชี้วัดแบบเรียลไทม์ และเพิ่มประสิทธิภาพในระหว่างแคมเปญที่ใช้งานอยู่แทนที่จะรอการวิเคราะห์หลังจบแคมเปญ
ราคาไม่แพง
ระบบอัตโนมัติช่วยลดความไม่มีประสิทธิภาพที่พบในกระบวนการซื้อโฆษณาแบบดั้งเดิม โดยลดงานที่ต้องทำด้วยมือและข้อผิดพลาดจากมนุษย์ การประมูลราคาแบบเรียลไทม์ช่วยให้ผู้โฆษณาจ่ายเงินเท่าที่จำเป็นสำหรับจำนวนการแสดงผลของโฆษณาแต่ละครั้งเพื่อให้สามารถควบคุมงบประมาณได้มากขึ้น
การตรวจวัดที่ครอบคลุม
นอกเหนือจากตัวชี้วัดพื้นฐานแล้ว วิดีโอตามโปรแกรมยังช่วยให้สามารถติดตามการกระทำดาวน์สตรีมต่าง ๆ เช่น การเข้าชมเว็บไซต์ การลงทะเบียน หรือการซื้อได้ด้วย ข้อมูลเชิงลึกที่หลากหลายเหล่านี้ช่วยให้แบรนด์เข้าใจผลกระทบที่แท้จริงของการโฆษณาวิดีโอของตนและคำนวณผลตอบแทนจากการใช้จ่ายโฆษณา (ROAS) ได้อย่างแม่นยำ
ประเภทของโฆษณาวิดีโอตามโปรแกรม
การโฆษณาวิดีโอตามโปรแกรมมีหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละรูปแบบได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีส่วนร่วมกับผู้ชมในบริบทและสภาพแวดล้อมการรับชมที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจรูปแบบต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถเลือกรูปแบบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับวัตถุประสงค์ของแคมเปญและกลุ่มเป้าหมายของพวกเขา
โฆษณาวิดีโออในสตรีม
โฆษณาในสตรีมจะปรากฏขึ้นภายในเนื้อหาวิดีโอที่กลุ่มเป้าหมายกำลังรับชมอยู่แล้ว ซึ่งจะคล้ายกับโฆษณาทางทีวีแบบดั้งเดิม แต่จะเผยแพร่ผ่านช่องทางดิจิทัลโดยการตั้งโปรแกรม โฆษณาในสตรีมแบ่งออกเป็นสามชนิดหลัก ๆ ดังนี้:
- โฆษณาก่อนเล่นวิดีโอ โฆษณาเหล่านี้จะแสดงก่อนเนื้อหาหลักเริ่มเล่น และมีโอกาสถูกมองเห็นสูง เนื่องจากผู้ชมรอเข้าถึงเนื้อหาที่ตนเลือกไว้
- โฆษณาคั่นกลาง: โฆษณาคั่นกลางจะแทรกเข้ามาในช่วงพักโฆษณาอย่างเป็นธรรมชาติในเนื้อหาที่ยาว คล้ายกับช่วงพักโฆษณาในทีวีแบบดั้งเดิม
- โฆษณาหลังเล่นวิดีโอ โฆษณาประเภทนี้จะปรากฎขึ้นหลังจากเนื้อหาจบลง ปกติจะเป็นเวลาที่ความสนใจของผู้ชมอาจลดลง
รูปแบบอินสตรีมมีประสิทธิภาพอย่างยิ่งสำหรับการรับรู้แบรนด์ และการเล่าเรื่องเนื่องจากวิธีนี้จะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ชมขณะที่กำลังส่วนร่วมกับเนื้อหาวิดีโออยู่แล้ว
โฆษณาวิดีโอนอกสตรีม
โฆษณาวิดีโอนอกสตรีมจะปรากฏขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ไม่ใช่วิดีโอ เช่น ระหว่างย่อหน้าของเนื้อหาข้อความหรือในฟีดโซเชียลมีเดีย โฆษณาเหล่านี้มักจะเล่นโดยอัตโนมัติเมื่อเลื่อนเข้าไปที่มุมมอง และมักจะเล่นโดยไม่มีเสียงจนกว่าผู้ใช้จะเปิดใช้งาน
รูปแบบนอกสตรีมทั่วไป ได้แก่:
- วิดีโอในบทความ: โฆษณาที่ปรากฏขึ้นระหว่างย่อหน้าของเนื้อหาที่เป็นตัวหนังสือ
- วิดีโอในฟีด: โฆษณาวิดีโอ ที่ปรากฏในโซเชียลมีเดียหรือฟีดเนื้อหา
- วิดีโอคั่นระหว่างหน้า: โฆษณาแบบเต็มหน้าจอที่ปรากฏขึ้นระหว่างเปลี่ยนหน้าในแอปหรือระหว่างเนื้อหาเว็บเพจ
รูปแบบนอกสตรีมสามารถดำเนินการได้ทั้งในแนวทางมาตรฐานหรือแบบเนทีฟ รูปแบบมาตรฐานจะเป็นสไตล์โฆษณาแบบดั้งเดิม ในขณะที่การดำเนินการแบบเนทีฟจะมีการจะปรับโฆษณาให้เข้ากับรูปลักษณ์ ความรู้สึก และฟังก์ชันของเนื้อหา แนวทางเนทีฟสำหรับวิดีโอนอกสตรีมให้ความสำคัญกับการผสานรวมกับประสบการณ์ของผู้ใช้ได้อย่างราบรื่น ซึ่งมักส่งผลให้ตัวชี้วัดการมีส่วนร่วมสูงกว่าเมื่อเทียบกับรูปแบบมาตรฐาน การผสมผสานเข้ากับกระแสเนื้อหาตามธรรมชาติในขณะที่ยังมีการเล่นโฆษณาอย่างชัดเจนทำให้วิดีโอนอกสตรีมแบบเนทีฟสามารถสื่อสารข้อความแบรนด์ได้โดยไม่รบกวนการรับชมเนื้อหาของผู้ใช้
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการโฆษณาวิดีโอตามโปรแกรม
โฆษณาวิดีโอตามโปรแกรมได้กลายเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในทุกที่พวกเขารับชมเนื้อหา การใช้งานเชิงกลยุทธ์ช่วยให้แบรนด์สามารถบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจซึ่งดึงดูดความสนใจโดยไม่รบกวนประสบการณ์ของผู้ใช้ ด้านล่างนี้เป็นการทบทวนแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดที่จำเป็นเพื่อยกระดับกลยุทธ์วิดีโอตามโปรแกรมของคุณ
กำหนดวัตถุประสงค์แคมเปญให้ชัดเจน
ก่อนที่จะเปิดตัวแคมเปญวิดีโอตามโปรแกรมทุกรูปแบบ ให้สร้างเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงและสามารถตรวจวัดได้ ไม่ว่าคุณจะมุ่งมั่นที่จะสร้างการรับรู้แบรนด์ กระตุ้นจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ หรือสร้างการแปลง วัตถุประสงค์ของคุณจะเป็นตัวกำหนดกลยุทธ์การระบุเป้าหมาย การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และตัวชี้วัดประสิทธิภาพ แต่ละแคมเปญควรมีวัตถุประสงค์หลักที่เป็นแนวทางในการตัดสินใจอื่น ๆ ทั้งหมด
สร้างโฆษณาที่มีความดึงดูดและเหมาะกับแต่ละช่องทาง
พัฒนาเนื้อหาวิดีโอที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละช่องทางและรูปแบบที่โฆษณาของคุณจะปรากฏขึ้น พิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพแวดล้อมการดูทั่วไป การรับชมแบบเปิดและปิดเสียง และช่วงความสนใจโดยเฉลี่ย ตัวอย่างเช่น โฆษณา CTV อาจได้ประโยชน์จากเนื้อหาที่มีความยาวและเล่าเรื่องราวได้ลึกซึ้ง ส่วนโฆษณาแบบนอกสตรีมบนมือถือควรสื่อสารข้อความสำคัญอย่างรวดเร็วและชัดเจนผ่านภาพ โดยจะต้องมี:
- แบรนด์สินค้าปรากฎขึ้นชัดเจนภายในไม่กี่วินาทีแรก
- คำบรรยายหรือองค์ประกอบข้อความสำหรับการดูแบบปิดเสียง
- การใช้ภาพบอกเล่าเรื่องราวที่ชัดเจนที่ทำงานได้โดยไม่ต้องใช้เสียง
- คำเรียกร้องให้ดำเนินการที่ชัดเจนที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของแคมเปญ
เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง
ใช้ประโยชน์จากความสามารถที่หลากหลายของโซลูชันที่ตั้งโปรแกรมเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง แทนที่จะกำหนดเป้าหมายแบบกว้าง ควรกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้สอดคล้องกับลูกค้าหลักของคุณโดยเฉพาะ เช่น คุณสามารถใช้ AMC เพื่อสร้างรายชื่อกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง โดยใช้บันทึกการมีส่วนร่วม อีเว้นต์การคอนเวอร์ชัน ข้อมูลเซ็กเมนต์ และอื่น ๆ กลุ่มเป้าหมายที่สร้างใน AMC สามารถเปิดใช้งานได้โดยตรงผ่าน Amazon DSP อย่าลืมสร้างสมดุลระหว่างการเข้าถึงและความแม่นยำ เพื่อไม่ให้จำกัดกลุ่มเป้าหมายจนเกินไป ขณะเดียวกันยังคงความเกี่ยวข้องกับผู้ชมอยู่
กำหนดขีดจำกัดความถี่
ป้องกันความเบื่อหน่ายจากโฆษณาโดยการกำหนดขีดจำกัดความถี่อย่างเหมาะสม เพื่อจำกัดจำนวนครั้งที่ผู้ชมคนเดิมเห็นโฆษณาของคุณ แม้ว่าการทำซ้ำบางอย่างจะช่วยให้จำข้อความได้ แต่การเห็นโฆษณามากเกินไปอาจสร้างความรู้สึกเชิงลบต่อแบรนด์ได้ ทดสอบระดับความถี่ที่แตกต่างกันเพื่อค้นหาสมดุลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแคมเปญและกลุ่มเป้าหมายของคุณ
ทดสอบและเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
ใช้การทดสอบ A/B เพื่อเปรียบเทียบโฆษณาเวอร์ชันต่าง ๆ กลยุทธ์การกำหนดเป้าหมาย และวิธีการประมูลราคา ใช้ประโยชน์จากข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่มีอยู่ผ่านโซลูชันที่ตั้งโปรแกรมเพื่อทำการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เช่น การอัปเดตองค์ประกอบที่มีประสิทธิภาพต่ำในโฆษณา โปรดจำไว้ว่าการเพิ่มประสิทธิภาพเป็นกระบวนการต่อเนื่อง ไม่ใช่สิ่งที่ทำครั้งเดียวในการเปิดตัวแคมเปญ
ตัวอย่างโฆษณาวิดีโอตามโปรแกรม
กรณีศึกษา
เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ทางออนไลน์ Kia Country of Savannah ต้องการปรับกลยุทธ์การโฆษณาของตน จึงหันไปใช้บริการของ Revive ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ของ Amazon Ads Revive ทำงานร่วมกับ CBC Automotive Marketing เพื่อสร้างการเชื่อมต่อกับผู้ซื้อรถในท้องถิ่น การใช้โฆษณาสตรีมมิ่งทีวีและ Amazon DSP ทำให้ Revive และ CBC Automotive Marketing เข้าถึงผู้มีโอกาสซื้อรถยนต์ซึ่งอาศัยอยู่ในรัศมี 20 ไมล์จากรหัสไปรษณีย์ของตัวแทนจำหน่าย
กรณีศึกษา
Aveeno Baby จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคุณแม่ตั้งครรภ์และพ่อแม่มือใหม่เพื่อโปรโมตสินค้าดูแลผิวสำหรับทารก การใช้ Amazon DSP ทำให้พวกเขาได้ใช้กลยุทธ์วิดีโอตามโปรแกรมที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในหลายช่องทาง แนวทางของพวกเขาได้สร้าง อัตราคอนเวอร์ชัน เพิ่มขึ้น 8 เท่าสำหรับลูกค้าที่ได้เห็นโฆษณาหลายรูปแบบ และยังช่วยปรับปรุงภาพลักษณ์ของแบรนด์อย่างมีนัยสำคัญ แสดงให้เห็นว่าโฆษณาวิดีโอตามโปรแกรมสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงเวลาที่เหมาะสมของเส้นทางของลูกค้า
กรณีศึกษา
Sports Research ซึ่งเป็นแบรนด์อาหารเสริมสุขภาพพยายามเพิ่มการรับรู้และเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์คอลลาเจนเปปไทด์ของพวกเขา พวกเขาใช้ Amazon Publisher Cloud (APC) ซึ่งเป็นดีลรับประกันแบบตั้งโปรแกรมที่ได้รับการเสริมประสิทธิภาพด้วยสตรีมมิ่งทีวี (STV) รายใหญ่ โดยใช้ค่าใช้จ่ายน้อยกว่ากลุ่มควบคุม 56% ดีลที่ปรับปรุงด้วย APC สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้สำเร็จในอัตราที่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานประมาณ 1.8 เท่า และยังช่วยลดต้นทุนในการเข้าถึงผู้ใช้งานที่ต้องการได้อย่างน้อย 51%
เริ่มต้นใช้งานวิดีโอตามโปรแกรมด้วย Amazon Ads
Amazon Ads มีชุดโซลูชันวิดีโอตามโปรแกรมที่ครอบคลุมซึ่งช่วยให้ผู้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกพื้นที่ของ Amazon ตัวเลือกที่หลากหลายเหล่านี้ช่วยให้แบรนด์สามารถใช้กลยุทธ์วิดีโอแบบเต็ม Funnel ที่สร้างการรับรู้ กระตุ้นการพิจารณาซื้อ และสร้างการคอนเวอร์ชันได้
Amazon DSP
Amazon DSPทำให้ผู้โฆษณาเข้าถึงลูกค้าที่เกี่ยวข้องผ่านเนื้อหาคุณภาพสูงระดับพรีเมียมที่รองรับโฆษณา ได้แก่ สินทรัพย์โดยเฉพาะของ Amazon อย่าง Prime Video หรือผ่านช่องทางของผู้ให้บริการบุคคลที่สาม โดยใช้การเชื่อมต่อโดยตรงกับผู้เผยแพร่และแพลตฟอร์มด้านอุปทานชั้นนำ ด้วยสัญญาณกลุ่มเป้าหมายเฉพาะตัว การเพิ่มประสิทธิภาพด้วย AI และเทคโนโลยีที่ทำงานร่วมกันได้ จึงทำให้ Amazon DSP สามารถนำเสนอโซลูชันแบบครบวงจรที่ช่วยเปิดมุมมองข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายและเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ
โฆษณาสตรีมมิ่งทีวี
โฆษณาสตรีมมิ่งทีวี สามารถใช้งานได้ใน Amazon DSP ด้วยโฆษณาสตรีมมิ่งทีวี แบรนด์ของคุณสามารถปรากฏในรายการทีวีระดับพรีเมียม ภาพยนตร์ ความบันเทิงสด และเนื้อหาต้นฉบับสุดพิเศษในหลากหลายบริการยอดนิยมที่ผู้ชมชื่นชอบ รวมถึง Prime Video จำนวนผู้เข้าถึงเฉลี่ยต่อเดือนในสหรัฐอเมริกาของสตรีมมิ่งทีวีที่รองรับโฆษณาของ Amazon มีมากกว่า 175 ล้านคน 1
โฆษณาวิดีโอออนไลน์
Prime Videoโฆษณาวิดีโอออนไลน์ (OLV) เป็นโฆษณาที่จะปรากฏทั้งในสตรีม (ก่อน ระหว่าง หรือหลังเนื้อหาวิดีโอ) และนอกสตรีม (ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ใช่วิดีโอระหว่างข้อความและรูปภาพ) บนเดสก์ท็อป มือถือ และแท็บเลต โฆษณาวิดีโอออนไลน์จะปรากฏบนเว็บไซต์ในเครือของ Amazon รวมถึง IMDb.com และ Twitch ตลอดจนผู้เผยแพร่โฆษณาชั้นนำบุคคลที่สาม โฆษณาวิดีโอออนไลน์มีให้บริการทั้งในแพ็กเกจแบบมีการจัดการให้และแบบบริการตนเองบน Amazon DSP
Twitch
จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ Twitch เฉลี่ย 105 ล้านคนต่อเดือน2ทำให้การโฆษณาบน Twitch สามารถช่วยช่วยเชื่อมต่อแบรนด์กับชุมชนเกมและความบันเทิงที่มีส่วนร่วมสูง โดยผ่านรูปแบบโฆษณาก่อนเล่นวิดีโอหลักและโฆษณาคั่นกลาง ตามที่ Amazon Ads พบในรายงานจากโฆษณาสู่จิตวิญญาณแห่งยุค ซึ่งเป็นการศึกษาทั่วโลกที่ศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างการโฆษณาและวัฒนธรรม ผู้โฆษณาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดใน Twitch จะต้องเข้าใจค่านิยมและพฤติกรรมของชุมชนก่อนที่จะสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์
Sponsored TV
Sponsored TV เป็นโซลูชันการโฆษณาแบบบริการตนเองที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้แบรนด์สามารถเข้าถึงและสร้างแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มเป้าหมายบนหน้าจอที่ใหญ่ที่สุดในบ้าน Sponsored TV ทำงานโดยใช้สัญญาณการช้อปปิ้งและสตรีมมิ่งจากบุคคลที่หนึ่งนับล้านล้านรายการ ช่วยให้แบรนด์ของคุณเชื่อมต่อกับผู้ชมที่เหมาะสม ในเวลาที่เหมาะสมบนบริการสตรีมมิ่งอย่าง Prime Video และ Twitch
โฆษณา Prime Video
โฆษณา Prime Video เปิดโอกาสให้แบรนด์สามารถทำการโฆษณาในสภาพแวดล้อมของเนื้อหาระดับพรีเมียม และมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายที่กำลังรับชมความบันเทิงรูปแบบยาวอย่างจริงจัง Prime Video มอบโอกาสให้แบรนด์ต่าง ๆ ได้มีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายด้วยโฆษณาก่อนเล่นวิดีโอหลักและโฆษณาคั่นกลางที่สั้นแต่สร้างความจดจำได้ดี และรบกวนประสบการณ์การรับชมของผู้ชมน้อยกว่าเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มที่มีโฆษณารูปแบบอื่น ๆ
หากคุณยังมีประสบการณ์ไม่มาก โปรดติดต่อเราเพื่อขอรับบริการแบบมีการจัดการโดย Amazon Ads มีการกำหนดงบประมาณขั้นต่ำ
1 ข้อมูลภายใน Amazon, ธันวาคม 2023 และมีนาคม 2024, สหรัฐอเมริกา กลุ่มเป้าหมายรายเดือนที่ไม่ซ้ำกันใน Prime Video, Amazon Freevee, Twitch, Fire TV Channels และ Amazon Publisher Direct
2 ข้อมูลภายใน Twitch, ทั่วโลก, 2023