ประกาศการเปิดตัว

การควบคุมแคมเปญแบบอิงตามเป้าหมายของ Sponsored Brands ทำให้ผู้โฆษณามีวิธีใหม่ ๆ ในการแสดงเป้าหมายแคมเปญที่ต้องการเพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการโฆษณา และเพิ่มประสิทธิภาพเมทริกซ์ความสำเร็จที่สำคัญ เช่น ยอดคลิกหรือส่วนแบ่งการแสดงโฆษณาอันดับบนสุดของการค้นหา สำหรับผู้โฆษณา การตัดสินใจเลือกอินพุต (เป้าหมาย ราคาประมูล รูปแบบชิ้นงานโฆษณา) ที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเฉพาะอาจใช้เวลานานและใช้ทรัพยากรมาก เพื่อช่วยให้ผู้โฆษณาได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและกำหนดแคมเปญได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรากำลังเปิดตัวการควบคุมแบบอิงตามเป้าหมายใหม่สองรายการ: กระตุ้นการเยี่ยมชมหน้า (DPV) และสร้างการเติบโตให้กับส่วนแบ่งจำนวนการเห็นโฆษณาของแบรนด์ (BIS)

เพื่อส่งมอบการเติบโตของแบรนด์ที่ยั่งยืน กลยุทธ์ของแบรนด์มุ่งเน้นไปที่การบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์และขับเคลื่อนนักช้อปไปตามกรวยการตลาด นับตั้งแต่การรับรู้ไปจนถึงการพิจารณา คอนเวอร์ชัน และความภักดี แคมเปญแบบอิงตามเป้าหมายของ Sponsored Brands ช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถถ่ายทอดความต้องการแคมเปญของตน ส่งมอบความต้องการเหล่านั้นด้วยการควบคุมที่ง่ายขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญของคุณมากขึ้นโดยเทียบกับเมทริกซ์ความสำเร็จที่สำคัญ เช่น ยอดคลิกและส่วนแบ่งการแสดงโฆษณาอันดับบนสุดของการค้นหา

กรณีการใช้งานของสองเป้าหมายแรกมีอะไรบ้าง

ในการเปิดเผยนี้ แบรนด์ต่าง ๆ สามารถเลือกเป้าหมายแคมเปญได้หนึ่งรายการจากกระบวนการสร้างแคมเปญ:

แคมเปญกระตุ้นการเยี่ยมชมเพจสามารถช่วยกระตุ้นการพิจารณาแบรนด์ของคุณ และนำทางลูกค้าไปยังร้านค้าแบรนด์และหน้ารายละเอียดสินค้าของคุณ โดยจะแสดงโฆษณาในหน้าการค้นหา หน้ารายละเอียด และโฮมเพจ เมทริกซ์ความสำเร็จสำหรับเป้าหมายนี้ คือ "ยอดคลิก" แคมเปญของ Sponsored Brands ที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้ทั้งหมดจะถูกแท็กเป็น "กระตุ้นการเยี่ยมชมหน้า" คุณจะชำระเงินในรูปแบบต้นทุนต่อคลิก (CPC)

สร้างการเติบโตให้กับส่วนแบ่งจำนวนการเห็นโฆษณาของแบรนด์สามารถช่วยกระตุ้นการเติบโตแบบเร่งรัดของแบรนด์และการค้นพบแบรนด์โดยการเพิ่มส่วนแบ่งการแสดงโฆษณาอันดับบนสุดของการค้นหาสำหรับแบรนด์และหมวดหมู่ของคุณ โดยจะช่วยเสริมสร้างการแชร์เสียงของคุณใน Amazon Store โฆษณาของคุณจะแสดงในอันดับบนสุดของการค้นหา เมทริกซ์ความสำเร็จสำหรับเป้าหมายนี้ คือ "ส่วนแบ่งการแสดงโฆษณาอันดับบนสุดของการค้นหา" คุณจะจ่ายตามราคาต้นทุนต่อจำนวนการเห็นโฆษณาที่สามารถดูได้ 1,000 ครั้ง (vCPM)

เมื่อรวมเป้าหมายแคมเปญทั้งสองนี้ไว้ในพอร์ตโฟลิโอแคมเปญ แบรนด์ต่าง ๆ จะสามารถจัดโครงสร้างแคมเปญเพื่อสร้างยอดขายในระยะสั้นของธุรกิจและการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว

จากข้อมูล Amazon ของผู้โฆษณา 6,000 ราย (มิถุนายน 2023) โดยเฉลี่ยแล้ว 60% ของนักช้อปที่ค้นหาแบรนด์มักจะซื้อสินค้าจากแบรนด์คู่แข่งภายใน 30 วันนับจากการค้นหา ดังนั้น การลงทุนในการรักษาและเพิ่มส่วนแบ่งการแสดงโฆษณาอันดับบนสุดของการค้นหาจะช่วยให้แบรนด์มีส่วนร่วมกับนักช้อป รวมถึงสร้างการรับรู้ของแบรนด์และการพิจารณาในระดับที่สูงขึ้น

ในการเปิดเผยนี้ Sponsored Brands ยังแนะนำการระบุเป้าหมายตามธีม การระบุเป้าหมายแบบไดนามิกและตามโมเดลที่ช่วยให้ผู้โฆษณาลดความซับซ้อนในการสร้างแคมเปญและปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญ เพื่อช่วยให้ผู้โฆษณาบรรลุเป้าหมายของแคมเปญ ธีมเหล่านี้ได้รวบรวมและเพิ่มประสิทธิภาพคีย์เวิร์ดอย่างต่อเนื่องซึ่งใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกที่พัฒนาอยู่ตลอดของ Amazon ตามเทรนด์การช้อปปิ้งและอัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อแสดงโฆษณาต่อกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องและช่วยกระตุ้นเมทริกซ์ความสำเร็จ มีการระบุเป้าหมายตามธีมสองกลุ่ม: "คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ของคุณ" คือชุดคีย์เวิร์ดที่มักใช้เพื่อค้นหาแบรนด์และโปรโมตจำนวนการแสดงผลของโฆษณาแบรนด์ "คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับหน้าแรกของคุณ" คือชุดคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องซึ่งกระตุ้นจำนวนการเข้าชมหน้าร้านค้าแบรนด์หรือหน้ารายละเอียดสินค้า

นอกจากนี้ แบรนด์ต่าง ๆ จะได้รับคำแนะนำที่ปรับให้เหมาะสมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของแคมเปญ จากประสิทธิภาพของแคมเปญที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยแล้ว แคมเปญที่ใช้ราคาประมูลและคีย์เวิร์ดที่แนะนำได้รับยอดคลิกเพิ่มขึ้น 95% และมีส่วนแบ่งการแสดงโฆษณาอันดับบนสุดของการค้นหาเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับแคมเปญที่ไม่มี (ข้อมูลภายในของ Amazon, 2022)

• ผู้จำหน่าย
• ลงทะเบียนผู้ขาย

• คอนโซลการโฆษณา
• Amazon Ads API