คู่มือ

การโฆษณาแบบดิสเพลย์คืออะไร คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น

โฆษณาดิสเพลย์ คือโฆษณาที่แสดงในแบบออนไลน์ ซึ่งรวมเนื้อหาและองค์ประกอบรูปภาพ พร้อมข้อความกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการ (CTA) ที่เชื่อมโยงไปยังหน้าแรก การโฆษณาแบบดิสเพลย์สามารถช่วยให้แบรนด์ทำการตลาดแบรนด์และสินค้าของตน ในการระบุเป้าหมายไปยังกลุ่มเป้าหมายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ

เริ่มใช้ Amazon Ads เพื่อแสดงสินค้าและสร้างแคมเปญของคุณ

ไอคอนคอร์ส

หากคุณมีประสบการณ์จำกัด โปรดติดต่อเราเพื่อขอรับบริการแบบมีการจัดการโดย Amazon Ads มีข้อกำหนดด้านงบประมาณขั้นต่ำ

ไอคอนคอร์ส

แคมเปญการโฆษณาที่ประสบความสำเร็จที่สุดเชื่อมโยงกับลูกค้าผ่านหลายช่องทาง และโฆษณาแบบดิสเพลย์ยังคงเป็นส่วนสำคัญของแผนการตลาดแบบบูรณาการต่าง ๆ ด้วย

โฆษณาแบบดิสเพลย์คืออะไร

โฆษณาแบบดิสเพลย์ คือโฆษณาออนไลน์ที่รวมเนื้อหาและองค์ประกอบรูปภาพ พร้อมข้อความกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการ (CTA) ที่เชื่อมโยงไปยังหน้าแรก คุณมักจะเห็นโฆษณาแบบดิสเพลย์ที่ด้านบนหรือด้านข้างของเว็บไซต์ หรือบางครั้งก็อยู่ตรงกลางของเนื้อหาที่คุณกำลังอ่านอยู่ โฆษณาแบบดิสเพลย์ทั้งดึงดูดสายตา ประหยัดค่าใช้จ่าย และเป็นวิธีที่แบรนด์สามารถวัดผลได้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการตลาด นั่นเป็นเหตุผลที่โฆษณาแบบดิสเพลย์เป็นกุญแจสำคัญต่อส่วนผสมของสื่อที่ทันสมัย

โฆษณาแบบดิสเพลย์ได้พัฒนาเป็นช่องทางที่เสนอการเข้าถึง การปรับขนาด และประสิทธิภาพการทำงานผ่านตำแหน่งโฆษณาที่กำหนดเป้าหมาย รูปแบบโฆษณาที่หลากหลาย ชิ้นงานโฆษณา และการวัดผล แต่หากจะใช้โฆษณาแบบดิสเพลย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุณควรทำความเข้าใจว่าอะไรที่ทำให้โฆษณาประเภทนี้แตกต่างจากโซลูชันโฆษณาดิจิทัลอื่น ๆ

ความแตกต่างระหว่างโฆษณาแบบดิสเพลย์กับโฆษณาแบนเนอร์คืออะไร

โฆษณาแบบดิสเพลย์ถือเป็นหมวดหมู่หนึ่งของการโฆษณาแบบดิจิทัล เมื่อพูดถึงการตลาดบนดิสเพลย์ บางคนใช้คำว่า “โฆษณาแบนเนอร์” และ “โฆษณาแบบดิสเพลย์” สลับกัน อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่เห็นว่าโฆษณาแบนเนอร์คือโฆษณาแบบดิสเพลย์ อาจเป็นเพราะในช่วงแรกของการโฆษณาแบบดิสเพลย์ คนมักจะพบเห็นโฆษณาแบบดิสเพลย์ได้ทั่วไปในแบนเนอร์ด้านบนเว็บไซต์ ตอนนี้โฆษณาแบนเนอร์มักจะเรียกว่าโฆษณาลีดเดอร์บอร์ด

ความแตกต่างระหว่างโฆษณาแบบดิสเพลย์กับโฆษณาแบนเนอร์

โฆษณาแบบดิสเพลย์ทั่วไปมีขนาดเท่าไร

Interactive Advertising Bureau (IAB) เป็นผู้กำหนดมาตรฐานขนาดของโฆษณาแบบดิสเพลย์ ขนาดของโฆษณาแบบดิสเพลย์ที่พบมากที่สุดคือ

  • แบนเนอร์ Medium Rectangle: 300 x 250 พิกเซล
  • ลีดเดอร์บอร์ด: 728 x 90 พิกเซล
  • โฆษณาแนวตั้งแบบกว้าง: 160 x 600 พิกเซล
  • แบนเนอร์ Large Rectangle: 300 x 600 พิกเซล
  • ลีดเดอร์บอร์ดบนมือถือ: 320 x 50 - 640 x 100 พิกเซล @2X (จำเป็น)

การโฆษณาแบบดิสเพลย์ทำงานอย่างไร

โฆษณาแบบดิสเพลย์อาจดูซับซ้อน เราจึงได้แบ่งเป็นวิธีสร้างแคมเปญการโฆษณาแบบดิสเพลย์ตั้งแต่ต้นจนจบในหกขั้นตอน

กำหนดกลุ่มเป้าหมาย

1. เริ่มต้นด้วยการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย

เริ่มต้นด้วยการกำหนดตำแหน่งและบุคคลที่คุณต้องการให้โฆษณาแสดง นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในกระบวนการสร้างแคมเปญ คุณสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลทางประชากรศาสตร์และสัญญาณการจับจ่าย เพื่อปรับแต่งตำแหน่งการแสดงโฆษณาของคุณ ด้วยการทำตลาดซ้ำ คุณยังสามารถแสดงโฆษณาให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ได้ดูสินค้าของคุณแล้วอีกด้วย การเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมจะช่วยให้มั่นใจว่าโฆษณาของคุณจะแสดงต่อกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ของคุณมากที่สุด

กำหนดเป้าหมายและการตั้งค่าแคมเปญของคุณ

2. กำหนดเป้าหมายและการตั้งค่าแคมเปญของคุณ

ถัดไป กำหนดเป้าหมายแคมเปญ เลือกตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลัก (KPI) ที่แสดงถึงผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีที่สุดที่คุณต้องการขับเคลื่อน เช่น การเข้าถึงหรือผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) และกำหนดงบประมาณแคมเปญ คุณยังสามารถกำหนดการตั้งค่าเพิ่มเติม เช่น ความเร็ว แหล่งจัดหา ประเภทอุปกรณ์ ตัวกรองจำนวนการเข้าชมก่อนการประมูล และอื่น ๆ ได้ด้วย

สร้างข้อความและการออกแบบที่ดึงดูดความสนใจ

3. สร้างข้อความโฆษณาและดีไซน์ที่ดึงดูดความสนใจให้กับโฆษณาดิสเพลย์ของคุณ

นี่คือที่ที่ความคิดสร้างสรรค์ของแบรนด์จะเผยแพร่ออกไป เมื่อข้อความและรูปแบบการโฆษณามาประกอบกันเพื่อสื่อสารถึงประโยชน์หลักของสินค้าหรือข้อเสนอที่โดดเด่นและมีคุณค่าของแบรนด์อย่างกระชับและชัดเจน อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณาแบบดิสเพลย์ที่สร้างสรรค์

วัดขนาดโฆษณาแบบดิสเพลย์ตามสเปค

4. วัดขนาดโฆษณาแบบดิสเพลย์ตามสเปค

มีการกำหนดขนาดของชิ้นงานโฆษณาแต่ละชิ้นของโฆษณาแบบดิสเพลย์ทุกรูปแบบที่แบรนด์เลือก โฆษณาจะมีลักษณะแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับว่าโฆษณาเหล่านี้ใช้สำหรับมือถือหรือเดสก์ท็อป โฆษณาแบบดิสเพลย์ขนาดใหญ่อาจมีข้อความในหัวเรื่อง ในขณะที่ในโฆษณาขนาดเล็ก ข้อความอาจต้องถูกตัดออกไป

วัดจำนวนการเข้าชมโฆษณาแบบดิสเพลย์ได้ทันที

5. วัดจำนวนการเข้าชมโฆษณาแบบดิสเพลย์ได้ทันที

โฆษณาแบบดิสเพลย์ทุกขนาดจะ “ถูกส่งตามที่กำหนด” (หรือส่งเป็นไฟล์รูปแบบสุดท้ายตามสเปคที่กำหนด) ไปยังสื่อตามวันที่ที่ระบุไว้ในแผนสื่อของคุณ

ตรวจสอบเมทริกซ์ของโฆษณาแบบดิสเพลย์ของคุณ

6. ตรวจสอบเมทริกซ์ของโฆษณาแบบดิสเพลย์ของคุณ

ให้ความสำคัญกับการตั้งค่าแคมเปญและองค์ประกอบของชิ้นงานโฆษณา รวมถึงหัวเรื่อง ภาพ และข้อความกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการ (CTA) ซึ่งอาจส่งผลต่อความสำเร็จของแคมเปญการโฆษณาดิจิทัลของคุณ ลองนึกถึงวิธีที่คุณอาจเปลี่ยนแปลงข้อมูลเหล่านี้เพื่อปรับปรุงเมทริกซ์แคมเปญของคุณให้ดีขึ้น เช่น การหาลูกค้า ผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) อัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็น (CTR)

จดบันทึกการเรียนรู้สำหรับแคมเปญโฆษณาแบบดิสเพลย์ในอนาคต

จดบันทึกการเรียนรู้สำหรับแคมเปญโฆษณาแบบดิสเพลย์ในอนาคต

เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญโฆษณาแบบดิสเพลย์ทุกแบบโดยจดบันทึกสิ่งที่ได้ผลดีและสิ่งที่ไม่ได้ผลสำหรับการทำแคมเปญครั้งต่อไป การใช้เวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่รวบรวมจากแคมเปญจะช่วยประหยัดเวลา เงิน และแรงของคุณกับแคมเปญในอนาคต

เมื่อพิจารณาถึง KPI และ OKR สิ่งที่คุณควบคุมได้คือสินค้าที่คุณโฆษณาและชิ้นงานโฆษณาของคุณ ซึ่งรวมถึงทั้งองค์ประกอบด้านภาพและเนื้อหา ชิ้นงานโฆษณาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการกำหนดประสิทธิภาพของโฆษณาของคุณ เช่นเดียวกับกลุ่มเป้าหมายและการประมูล หากคุณต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพ ให้เปลี่ยนหนึ่งในสามสิ่งนี้: ชิ้นงานโฆษณา กลุ่มเป้าหมาย หรือการประมูล

ประโยชน์ของการโฆษณาแบบดิสเพลย์

โฆษณาแบบดิสเพลย์มีประโยชน์หลายประการ แต่ที่สำคัญที่สุดคือสามารถตรวจวัดได้ คุ้มค่ากับค่าใช้จ่าย เป็นส่วนเสริมของช่องทางอื่น ๆ อีกทั้งยังยืดหยุ่นและเข้าถึงได้อีกด้วย

1. สามารถตรวจวัดได้

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อความกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการ (CTA) ที่คุณใช้ คุณสามารถวัดผลความสำเร็จของแคมเปญโฆษณาแบบดิสเพลย์ด้วยเมทริกซ์ชี้วัดทางการตลาดมากมาย ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเลือกการกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการได้ เช่น ยอดคลิกการวัดผลโฆษณา ‘ประสบการณ์ที่มีต่อแบรนด์’ ในโฆษณาแบบดิสเพลย์เองและ ต้นทุนต่อคลิก (CPC)ที่สอดคล้องกัน เมทริกซ์ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ สำหรับการวัดความสำเร็จของการกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการ (CTA) นี้ ได้แก่ จำนวนการแสดงของโฆษณา อัตราคอนเวอร์ชัน ผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) และอื่น ๆ อีกมากมาย

และคุณสามารถกำหนดได้ว่าโฆษณาตรงใจกลุ่มเป้าหมายที่ตั้งใจไว้หรือไม่ และทำความเข้าใจถึงสิ่งที่เป็นแรงกระตุ้นต่อพฤติกรรมการจับจ่าย ตัวอย่างเช่น คุณสามารถมองเห็นได้ว่ากลุ่มเป้าหมายใดที่ซื้อสินค้าจากแบรนด์ของคุณ

2. คุ้มค่ากับการใช้จ่าย

โฆษณาแบบดิสเพลย์มีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไป แต่สิ่งที่ทำให้การโฆษณารูปแบบนี้เป็นหนึ่งในวิธีการโฆษณาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือความยืดหยุ่น การโฆษณาแบบดั้งเดิมบางอย่างจะทำให้แบรนด์ไม่สามารถเปลี่ยนภาพ การกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการ (CTA) หรือข้อความได้หลังจากที่โฆษณาเริ่มทำงาน นั่นหมายความว่าหากโฆษณาไม่มีประสิทธิภาพ ค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินการก็อาจสูงกว่า เนื่องจากโฆษณาแบบดิสเพลย์มีลักษณะไดนามิก จึงช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถเปลี่ยนแนวทางในระหว่างดำเนินแคมเปญได้ ซึ่งทำให้แบรนด์มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญและเพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณของตนเองได้

3. เป็นส่วนเสริมของช่องทางอื่น ๆ

โฆษณาแบบดิสเพลย์เป็นส่วนเสริมให้กับช่องทางอื่น ๆ เมื่อคุณรวมโฆษณาดิสเพลย์เข้ากับช่องทางอื่น เช่น โซเชียลมีเดีย ซึ่งจะสามารถเพิ่มผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) หรือเกิด Halo Effect ได้ ในความเป็นจริง การวิจัยของเราพบว่า โฆษณาแบบดิสเพลย์สามารถช่วยลดเวลาเฉลี่ยในการขายลง 21%1 นอกจากนี้แบรนด์ที่ใช้ กลยุทธ์แบบเต็ม funnel เป็นระยะ ๆ (เช่น เปิดและปิด) ก็ได้เพิ่มยอดขายจากการที่แสดงโฆษณาโดยเฉลี่ยถึง 1.8 เท่าเมื่อใช้วิธีการแบบเต็ม funnel ที่มีการปรับแต่ง และทำยอดขายจากการที่แสดงโฆษณามากขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อใช้วิธีการแบบเต็ม funnel อย่างครอบคลุม เมื่อเทียบกับที่แบรนด์ใช้เพียงโฆษณาแบบดิสเพลย์เพียงอย่างเดียว2

4. ยืดหยุ่นและเข้าถึงได้

โฆษณาแบบดิสเพลย์ช่วยให้แบรนด์สามารถทดสอบข้อความ ภาพ และข้อความกระตุ้นให้ดำเนินการที่ต่างกันหลาย ๆ แบบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น แทนที่จะเลือกเพียงหนึ่งหัวเรื่องและหวังว่าจะได้ผล แต่แบรนด์สามารถใช้โฆษณาแบบดิสเพลย์จำนวนหนึ่งพร้อมภาพและการกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการ (CTA) ที่เหมือนกันแต่ใช้หัวเรื่องต่างกันเพื่อที่จะวัดว่าข้อความใดตรงใจกลุ่มเป้าหมายได้ดีที่สุด หากแบรนด์ยังทำตลาดแบบออฟไลน์ด้วย เช่น สปอตโฆษณาทางทีวีหรือบิลบอร์ด การทดสอบหัวเรื่องผ่านโฆษณาแบบดิสเพลย์ก็เป็นวิธีที่ดีในการตรวจสอบว่าข้อความใดจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเมื่อนำไปใช้กับรูปแบบโฆษณาที่มีความยืดหยุ่นน้อย

โฆษณาแบบดิสเพลย์ยังเป็นหนึ่งในรูปแบบโฆษณาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในปัจจุบัน รวมถึงบัญชีแบบตั้งโปรแกรมสำหรับโฆษณาแบบดิสเพลย์ส่วนใหญ่ที่ใช้ ซึ่งมีประสิทธิภาพดีทั้งในการใช้แบบเดี่ยว ๆ และการใช้เป็นช่องทางเสริม

โฆษณาแบบดิสเพลย์กับ Amazon Ads

Sponsored Display

Sponsored Display เป็นโซลูชันการโฆษณาแบบบริการตนเองที่ช่วยให้ผู้โฆษณาเพิ่มการรับรู้ให้กับแบรนด์และสินค้าของตน การมีส่วนร่วมกับลูกค้า และผลักดันการซื้อเพื่อสร้างธุรกิจบน Amazon โฆษณาสร้างสรรค์ของเรามีองค์ประกอบในการช้อปปิ้งของ Amazon ที่คุ้นเคย นั่นคือ การจัดอันดับคะแนน รูปภาพสินค้า และป้ายโฆษณา อย่าง Prime Shipping หรือส่วนลด Sponsored Display ให้ความสำคัญกับการขายปลีก ซึ่งหมายความว่า โฆษณาจะไม่แสดงหาก ASIN ที่โฆษณาหมดสต็อกหรือไม่มีข้อเสนอเด่น

คุณสามารถใช้ Sponsored Display เพื่อเข้าถึงนักช้อปที่กำลังค้นหาสินค้าและหมวดหมู่ที่คล้ายกันหรือเป็นส่วนเสริมบน Amazon ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณ หรือใช้กลุ่มเป้าหมาย Sponsored Display เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่สร้างขึ้นเองซึ่งจะช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถแนะนำสินค้าใหม่ ๆ มีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ และทำการตลาดซ้ำในวงกว้าง

Sponsored Display ใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์โฆษณาอื่น ๆ เช่น Sponsored Products, Sponsored Brands และแคมเปญ Amazon DSP เพื่อขยายธุรกิจของคุณกับ Amazon

Amazon DSP

Amazon DSP เป็นแพลตฟอร์มด้านอุปสงค์ (DSP) ที่ช่วยให้ผู้โฆษณาซื้อโฆษณาแบบดิสเพลย์ โฆษณาวิดีโอ และ Audio ads ด้วยโปรแกรมได้ในทุกที่ที่ลูกค้าใช้เวลาอยู่ ผู้โฆษณาสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทั้งในเว็บไซต์และแอป Amazon รวมทั้งผ่าน Amazon Publisher Services และการแลกเปลี่ยนของบุคคลที่สาม คุณสามารถใช้เกณฑ์ เช่น ประชากรศาสตร์และสัญญาณการจับจ่ายเพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายที่ดูเหมือนกันหรือที่กำหนดเองได้

ผู้โฆษณาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี Amazon Ads เช่น Amazon Ad Server, ระบบคลาวด์การตลาดของ Amazon และ Amazon Publisher Services ผ่าน Amazon DSP Amazon DSP ให้ข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายและการวิเคราะห์ประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งทั้งก่อนและหลังแคมเปญ โดยที่ผู้โฆษณาของเราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ผู้โฆษณาสามารถดูรายงานการทับซ้อนกันของกลุ่มเป้าหมายและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตามช่องทางและเมทริกซ์ เช่น ความสามารถในการมองเห็นโฆษณาและค่าใช้จ่ายต่อการดูหน้ารายละเอียด คุณจึงสามารถประเมินประสิทธิผลและประสิทธิภาพของแคมเปญได้ดีขึ้น

6 ตัวอย่างสำหรับการกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการ (CTA) ของโฆษณาแบบดิสเพลย์ที่มีประสิทธิภาพ

ข้อความกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการ (CTA) เป็นองค์ประกอบสำคัญของโฆษณาแบบดิสเพลย์ทุกชิ้นงาน และควรทำการเลือกอย่างระมัดระวังเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ในบางครั้ง การใช้คำกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการทั่วไป เช่น “ช้อปตอนนี้” ก็ดูเข้าท่า แม้ว่าแบรนด์จะสร้างสรรค์คำกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการของตัวเองได้ แต่ก็ต้องแน่ใจว่าคำกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการ (CTA) ของคุณจะสนับสนุนเป้าหมายแคมเปญโฆษณาแบบดิสเพลย์ของคุณเองด้วย

ต่อไปนี้เป็น 6 ตัวอย่างสำหรับข้อความกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการ (CTA) ของโฆษณาแบบดิสเพลย์ที่มีประสิทธิภาพ

  1. ช้อปตอนนี้ กระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสิ่งที่คุณกำลังโฆษณาอยู่ในขณะนั้น
  2. เรียนรู้เพิ่มเติม: ลิงก์นำไปยังข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังทำการโปรโมตสำหรับนักช้อปที่อาจต้องการข้อมูลเพิ่มเติม แต่ยังไม่ต้องการซื้อในขณะนี้
  3. สั่งซื้อล่วงหน้าตอนนี้ ช่วยให้ลูกค้าของคุณรู้ข่าวก่อนใครและดำเนินการหากสินค้านั้นยังไม่พร้อมให้ซื้อ
  4. ดูรายละเอียด ชี้นำลูกค้าไปยังรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าหรือข้อเสนอที่คุณกำลังโฆษณา
  5. ดูตอนนี้: จุดประกายความสนใจของลูกค้าทันทีด้วยคำกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการ (CTA) และกระตุ้นให้พวกเขาดูเนื้อหาวิดีโอของคุณ
  6. เป็นสมาชิกและได้ประหยัด ลิงก์นำไปยังข้อมูลการเป็นสมาชิกและได้ประหยัดเพื่อให้ลูกค้าของคุณสามารถลงทะเบียนสำหรับการส่งมอบสินค้าตามกำหนดเวลาที่เกิดขึ้นเป็นประจำซึ่งพวกเขาใช้งานบ่อย

โฆษณาแบบดิสเพลย์เป็นรูปแบบการโฆษณาที่วัดผลได้ คุ้มค่า มีความยืดหยุ่น และสามารถเข้าถึงได้ได้ผลดีทั้งการใช้งานแบบเดี่ยว ๆ หรือการใช้ร่วมกับช่องทางอื่น Amazon Ads นำเสนอโซลูชันโฆษณาแบบดิสเพลย์ที่หลากหลาย เพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมาย

สนใจที่จะเริ่มต้นแคมเปญ Sponsored Display ของ Amazon Ads หรือแคมเปญ Amazon DSP ของคุณเองหรือยัง รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวความสำเร็จของลูกค้า หรืออ่านเกี่ยวกับตัวอย่างโฆษณาแบบดิสเพลย์ และแนวทางการใช้ประโยชน์จากโซลูชัน Amazon Ads ในการช่วยผลักดันผลลัพธ์

หากคุณมีประสบการณ์จำกัด โปรดติดต่อเราเพื่อขอรับบริการแบบมีการจัดการโดย Amazon Ads มีข้อกำหนดด้านงบประมาณขั้นต่ำ

1 ข้อมูลภายใน Amazon ปี 2019
2 ข้อมูลภายใน Amazon ปี 2020 – ผลลัพธ์จากการวิเคราะห์มากกว่า 50 แบรนด์ ในเดือนมิถุนายน ปี 2018 และกรกฎาคม ปี 2020

โซลูชันที่แนะนำ

โฆษณาดิสเพลย์ช่วยให้แบรนด์ของคุณเชื่อมต่อกับลูกค้าผ่านบริการต่าง ๆ ของ Amazon เช่น Twitch และ Freevee และอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น Fire TV และ Echo Show รวมถึงเนื้อหาระดับพรีเมียมของบุคคลที่สาม

Sponsored Display

Sponsored Display คือโซลูชันการโฆษณาแบบดิสเพลย์ที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะธุรกิจนั้นจะขายสินค้าใน Amazon Store หรือไม่ก็ตาม

Sponsored Products

สร้างโฆษณาแบบต้นทุนต่อคลิก เพื่อช่วยให้ลูกค้าพบสินค้าของคุณบน Amazon