กรณีศึกษา

การทำงานร่วมกับ Amazon Ads ช่วยให้ PetIQ มียอดขายออฟไลน์เพิ่มขึ้น 52%

เส้นทางของ PetIQ แสดงให้เห็นว่า กลยุทธ์แบบเต็ม Funnel ของ Amazon Ads ซึ่งครอบคลุม Prime Video, สตรีมมิ่งทีวี และ Twitch สามารถขับเคลื่อนความสำเร็จได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์

PetIQ

สิ่งสำคัญที่ได้เรียนรู้

5.3 เท่า

อัตราการซื้อสูงขึ้นเมื่อผู้ซื้อเห็นโฆษณาอย่างน้อย 3 ประเภท

52%

ยอดขายที่เกิดจาก Amazon Ads เกิดขึ้นในช่องทางออฟไลน์

26%

ช่วยเพิ่มจำนวนการเข้าชมตำแหน่งร้านค้าจริง

เป้าหมาย

PetIQ ได้เริ่มต้นเส้นทางที่ท้าทายเมื่อกว่า 7 ปีก่อน ด้วยการลงทุนอย่างพอประมาณในโฆษณา Sponsored ในหมวดผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงที่มีการแข่งขันสูง สิ่งที่เริ่มจากการโฆษณาแบบเจาะจง ได้พัฒนาเป็นกลยุทธ์การตลาดแบบครบวงจร ซึ่งยกระดับให้ PetIQ กลายเป็นหนึ่งใน 50 ผู้โฆษณาอันดับต้น q ของ Amazon Ads1 แบรนด์ตระหนักถึงความจำเป็นในการสร้างตัวตนทางดิจิทัลที่แข็งแกร่ง ควบคู่กับการสร้างผลลัพธ์แบบครบช่องทางในร้านค้าปลีกหลัก วิสัยทัศน์ของพวกเขาไม่ได้หยุดแค่การโปรโมทสินค้า แต่ต้องการพลิกโฉมวิธีที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงค้นหาและมีส่วนร่วมกับโซลูชันด้านสุขภาพสัตว์ ผ่านหลากหลายจุดที่ลูกค้าเจอสินค้า

ความท้าทายมีความชัดเจนอยู่แล้วว่าในฐานะแบรนด์ผู้ท้าชิงในตลาดดูแลสัตว์เลี้ยง PetIQ จะสร้างการรับรู้ที่โดดเด่นและเชื่อมโยงกับผู้บริโภคทั้งบน Amazon และช่องทางค้าปลีกรายใหญ่อื่น ๆ ได้อย่างไร แบรนด์จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ซับซ้อน ไม่เพียงแค่กระตุ้นยอดขายทันที แต่ยังต้องสร้างการรับรู้แบรนด์ในระยะยาวและความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค

แนวทาง

เส้นทางสู่ความสำเร็จของ PetIQ มีความเป็นระบบและครอบคลุม โดยทำงานร่วมกับ Amazon Ads อย่างใกล้ชิดเพื่อผลักดันวิสัยทัศน์ให้เกิดขึ้นจริง แบรนด์ได้พัฒนากลยุทธ์แบบเต็ม Funnel ที่มีความซับซ้อน โดยใช้ประโยชน์จากโซลูชันของ Amazon Ads หลายรูปแบบ ทั้งโฆษณา Prime Video, โฆษณาสตรีมมิ่งทีวี, Twitch และในสหรัฐอเมริกา โฆษณาภาษาสเปน แนวทางที่หลากหลายนี้ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้สามารถเข้าถึงและสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคในแต่ละจุดที่ลูกค้าเจอสินค้าได้อย่างสูงสุด

การเปิดตัวแบรนด์ใหม่ชื่อ Nextstar ในปี 2024 ถือเป็นจุดสูงสุดของการพัฒนากลยุทธ์ของพวกเขา แคมเปญนี้ใช้แคมเปญแบบเต็ม Funnel ที่คล้ายกัน เพื่อสร้างผลลัพธ์ในร้านค้าปลีกรายใหญ่ต่าง ๆ เช่น Walmart, Target และ Costco โดยร่วมมือกับ Amazon Ads พวกเขายังได้ใช้แคมเปญแบบกระตุ้นตามสภาพอากาศในช่วงที่หมัดและเห็บระบาดสูง โดยจับมือกับ The Weather Channel เพื่อให้ได้จังหวะเวลาที่เหมาะสมและมีความเกี่ยวข้องสูงสุด

แบรนด์ยังใช้ประโยชน์จากระบบคลาวด์การตลาดของ Amazon เพื่อเก็บข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเส้นทางของลูกค้า ซึ่งเผยให้เห็นว่าวิดีโอออนไลน์มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อเส้นทางสำหรับซื้อ ข้อมูลเชิงลึกนี้นำไปสู่การใช้โฆษณาวิดีโอแบบโต้ตอบ และระบบโฆษณาแบบมีเสียง ซึ่งสร้างรูปแบบการกำหนดแอตทริบิวต์แบบมัลติทัชที่ให้ประสิทธิภาพสูงมาก

ผลลัพธ์

ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคที่เห็นโฆษณาตั้งแต่สามประเภทขึ้นไปมีอัตราการซื้อสูงกว่าผู้ที่เห็นโฆษณาเพียงประเภทเดียวถึง 5.3 เท่า ที่น่าประทับใจยิ่งกว่า คือ 52% ของยอดขาย PetIQ ที่เกิดจาก Amazon Ads มาจากช่องทางออฟไลน์ และในส่วนของโซลูชันด้านแบรนด์สร้างยอดขายออฟไลน์ได้สูงถึง 70%

ผลกระทบของแคมเปญไม่ได้หยุดเพียงแค่ยอดขาย แต่ยังสร้างการรับรู้แบรนด์และการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การศึกษาจาก Kantar เผยให้เห็นว่าการรับรู้แบรนด์แบบมีการชี้นำเพิ่มขึ้น 15% และความตั้งใจซื้อจากโฆษณาแบบเสียงเพิ่มขึ้น 11%4 นอกจากนี้ การศึกษาจาก InMarket ยังแสดงให้เห็นว่ามีจำนวนการเข้าชมร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้น 26%5

เมื่อมองไปข้างหน้า PetIQ ยังคงผลักดันขีดจำกัดด้วยโครงการใหม่ ๆ ที่สร้างสรรค์ แบรนด์กำลังเตรียมเปิดตัวแคมเปญ Brand Innovation Lab และกำลังทดสอบ Amazon DSP เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์โฆษณาให้ดียิ่งขึ้น พวกเขายังมีแผนทำการสนับสนุนบน Prime Video ร่วมกับภาพยนตร์เรื่อง Merv สำหรับไลน์สินค้า Minties ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการโฆษณาดิจิทัล

เรื่องราวความสำเร็จของ PetIQ ถือเป็นตัวอย่างให้กับแบรนด์ที่กำลังเติบโตซึ่งมีเป้าหมายจะขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาด การใช้ประโยชน์จากเครื่องมือการตรวจวัดที่ซับซ้อน และการยืนหยัดในความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรม PetIQ ได้เปลี่ยนจากแบรนด์ผู้ท้าชิงที่มีวิสัยทัศน์ สู่การเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในอุตสาหกรรมดูแลสัตว์เลี้ยงด้วยการนำกลยุทธ์ดิจิทัลแบบครบวงจรมาใช้

ที่มา

13 ข้อมูลภายใน Amazon, สหรัฐอเมริกา, 2025

4 Kantar, สหรัฐอเมริกา, 2025

5 InMarket, สหรัฐอเมริกา, 2025