ตัวแทน Amazing ช่วยให้ L'Oréal เพิ่มยอดขายเป็นสองเท่าด้วย Amazon Ads

แบรนด์ด้านความงามชื่อดังระดับโลก L'Oréal ก่อตั้งขึ้นในปี 1909 โดยนักเคมี Eugène Schueller ซึ่งหนึ่งในบริษัทเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ตั้งอยู่ในกลิชี่ และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ชปารีส ประเทศฝรั่งเศส

แม้ว่าจะเริ่มต้นธุรกิจด้วยสีย้อมผม แต่ในปัจจุบัน L'Oréal มีสาขาอยู่ใน 150 ประเทศ และนำแบรนด์ 36 แบรนด์และสินค้าหลายพันรายการสู่ตลาดในอุตสาหกรรมด้านความงามทุกภาคส่วน ได้แก่ สีย้อมผม ผลิตภัณฑ์ดัดผม ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและผิวกาย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เครื่องสำอาง และน้ำหอม เป็นต้น L'Oréal Paris Dermo Expertise คือหนึ่งในแบรนด์สำหรับผู้บริโภค โดยเป็นกลุ่มสินค้าดูแลผิวราคาย่อมเยา ซึ่งนำเสนอสินค้าต่าง ๆ เช่น ครีมบำรุงผิวลดเลือนริ้วรอย ผลิตภัณฑ์ลบเครื่องสำอาง โทนเนอร์ ครีมบำรุงรอบดวงตา และอื่น ๆ

ในเดือนธันวาคมปี 2018 ทางทีมได้ร่วมงานกับ Amazing ซึ่งเป็นตัวแทนการตลาดดิจิทัลจากมาดริดที่เชี่ยวชาญในด้านการจัดการและการเพิ่มประสิทธิภาพแค็ตตาล็อกสินค้าและแคมเปญการโฆษณา เพื่อช่วยปรับปรุงการแสดงแบรนด์และเพิ่มการมองเห็นและยอดขายของกลุ่มสินค้า L'Oréal Paris Dermo Expertise ทางออนไลน์

ตัวแทนได้ออกแบบกลยุทธ์ "ร่วมกันย่อมดีกว่า" โดยเปิดตัวแคมเปญของร้านค้า, Sponsored Products, Sponsored Brands และ Sponsored Display สำหรับสินค้าบางรายการภายในกลุ่มสินค้า เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายให้กับกลุ่มสินค้าดังกล่าวและปรับปรุงการมองเห็นภายในหมวดหมู่สินค้าดูแลผิวบน Amazon.es กุญแจสำคัญสำหรับกลยุทธ์นี้คือการถือว่าสินค้าแต่ละรายการเหล่านี้เป็นธุรกิจที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีวัตถุประสงค์ งบประมาณ ค่าใช้จ่ายการโฆษณาและยอดขาย (ACOS) ผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) ตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลัก (KPI) เนื้อหา และแคมเปญโฆษณาที่แตกต่างกันสำหรับสินค้าแต่ละรายการ

นี่คือกลยุทธ์ที่ตัวแทน Amazing นำมาใช้กับสินค้าแต่ละรายการมีรายละเอียดดังนี้

• Sponsored Products: เมื่อ L'Oréal เริ่มโฆษณาครั้งแรกบน Amazon.es ทางแบรนด์มุ่งเน้นไปที่คีย์เวิร์ดทั่วไปและคีย์เวิร์ดแบรนด์ แต่ด้วยความช่วยเหลือของตัวแทน แบรนด์จึงสร้างโครงสร้างคีย์เวิร์ดที่ทำงานร่วมกับตัวเลือกการจับคู่คีย์เวิร์ดแต่ละคีย์เวิร์ด (แบบแม่นยำ แบบกลุ่มคำ และแบบกว้าง) ซึ่งช่วยให้แบรนด์เข้าถึงนักช้อปที่กำลังมองหาสินค้าที่คล้ายคลึงกันได้มากขึ้น จากนั้น ตัวแทนจะปรับแต่งหน้ารายละเอียดสินค้าของแต่ละแคมเปญโดยมุ่งเน้นไปที่
• รูปภาพ: Amazing ช่วยเติมเต็มพื้นที่ว่างทั้งหมดภายในหน้ารายละเอียดสินค้าด้วยรูปภาพและวิดีโอความละเอียดสูงสำหรับสินค้าแต่ละรายการ
• ชื่อ: Amazing ทำให้มั่นใจได้ว่าชื่อสินค้าที่โฆษณาประกอบด้วยคีย์เวิร์ดยอดนิยมจากแต่ละแคมเปญ
• เนื้อหา: Amazing เพิ่มคีย์เวิร์ดยอดนิยมในหัวข้อย่อยสำหรับคำอธิบายสินค้า โดยรักษาความยาวไม่ให้เกิน 200 ตัวอักษรสำหรับสินค้าแต่ละรายการ จากนั้นใช้ เนื้อหา A+ ซึ่งประกอบด้วยตารางการขายข้ามผลิตภัณฑ์กับสินค้าที่ดีที่สุดที่เชื่อมโยงกันเพื่อให้มองเห็นและเปรียบเทียบได้ง่าย
• ร้านค้า: การสร้าง ร้านค้าเฉพาะสำหรับกลุ่มสินค้า Dermo Expertise ช่วยกระตุ้นการรับรู้ของแบรนด์ ซึ่งช่วยให้นักช้อป Amazon ได้เรียนรู้เรื่องราวของแบรนด์และค้นพบพอร์ตโฟลิโอสินค้า
• Sponsored Brands: L'Oréal จัดสรรงบประมาณมากขึ้นให้กับแคมเปญของ Sponsored Brands ซึ่งช่วยเชื่อมต่อนักช้อปเข้ากับหน้ารายละเอียดสินค้าและร้านค้าของแบรนด์ กลยุทธ์แบบเปิดเสมอพร้อมสินค้าที่มีข้อเสนอยังช่วยเพิ่มการมองเห็นของสินค้าที่ลดราคาของกลุ่มสินค้า Dermo Expertise ด้วยเช่นกัน
• Sponsored Display: การเปิดตัวแคมเปญของ Sponsored Display ช่วยเพิ่มการมองเห็นสินค้าเสริมในหน้ารายละเอียดสินค้า

แนวคิดพื้นฐานที่ Amazing ช่วยให้เรานำไปใช้ในกลยุทธ์การโฆษณามี 2 ข้อ โดยข้อแรกคือการสร้างกลยุทธ์แบบเปิดเสมอสำหรับแคมเปญโฆษณา sponsored ที่ครอบคลุมทั้ง Funnel คอนเวอร์ชันตั้งแต่การรับรู้ของแบรนด์ไปจนถึงการพิจารณาและคอนเวอร์ชัน ส่วนอีกข้อคือ Amazing ช่วยให้เราจัดการงบประมาณ โดยคำนึงถึงวงจรชีวิตของสินค้าและความแปรผันตามฤดูกาล เพื่อให้เราเตรียมพร้อมที่จะครอบคลุมโอกาสในการขายทั้งหมดบน Amazon อย่างสมบูรณ์แบบ

– Daniel Grande ผู้อำนวยการฝ่ายดิจิทัลด้านสินค้าบริโภคของ L'Oréal Paris Dermo Expertise

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญต่าง ๆ Amazing จึงใช้รายงานตำแหน่งโฆษณาในการวัดผลลัพธ์การช้อปปิ้งสูงสุดและรายงานข้อความค้นหาเพื่อค้นพบคีย์เวิร์ดใหม่สำหรับเพิ่มไปยังแคมเปญแต่ไม่รวมแคมเปญที่มีประสิทธิภาพไม่ดี จากนั้น Amazing ก็จะเปลี่ยนเส้นทางงบประมาณจากแคมเปญที่มีประสิทธิภาพต่ำและเพิ่มเงินประมูลให้กับแคมเปญที่มีประสิทธิภาพสูงตามความจำเป็น

กุญแจสำคัญสำหรับกลยุทธ์ของ L'Oréal Paris Dermo Expertise คือการมุ่งเน้นไปที่องค์ประกอบการค้าปลีกและการโฆษณาที่สำคัญของสินค้าเชิงกลยุทธ์แต่ละรายการด้วยวิธีที่เป็นอิสระและปรับแต่งแล้ว โดยรักษาโครงสร้างที่สอดคล้องและทำงานร่วมกันของเนื้อหา คีย์เวิร์ด และแคมเปญโฆษณา sponsored สำหรับแค็ตตาล็อกส่วนที่เหลือ

ตั้งแต่ L'Oréal เริ่มทำงานร่วมกับตัวแทน Amazing ในปี 2018 ROAS เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ในปี 2019 และ 2020 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นอกจากนี้ ACOS ของแบรนด์ยังลดลง 22% ในปี 2020 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า