สำหรับ Unilever การดำเนินการเพื่อสภาพภูมิอากาศเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนมากขึ้น

9 พฤศจิกายน 2022 | โดย Matt Miller นักเขียนคำโฆษณาอาวุโส

ยินดีต้อนรับสู่ The Sprout ซึ่งเป็นซีรี่ส์ที่นำเสนอวิธีการที่ธุรกิจต่าง ๆ ก้าวไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น

ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 นาย William Lever ได้เปิดตัวสบู่บรรจุหีบห่อและมีตราสินค้าก้อนแรกของโลก ตลอดช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1900 สินค้าของเขาอย่าง Sunlight ได้กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์สบู่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ช่วยเปลี่ยนการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลในช่วงเปลี่ยนศตวรรษ นับตั้งแต่ยุคแรก ๆ Unilever เป็นบริษัทที่ทำงานเพื่อช่วยเหลือชีวิตของผู้บริโภค ในขณะเดียวกันก็นำพาอุตสาหกรรมให้ก้าวไปข้างหน้า 100 กว่าปีต่อมา ภารกิจดังกล่าวคงเดิมในรูปแบบของความพยายามของ Unilever ในฐานะธุรกิจที่ยั่งยืน Niki King หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนของ Unilever อเมริกาเหนือกล่าวว่า “ความยั่งยืนคือหัวใจสำคัญของการบริหารจัดการบริษัทของเราในวันนี้” “วิสัยทัศน์ของเราคือการเป็นผู้นำระดับโลกในการทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืน และเพื่อแสดงให้เห็นว่ารูปแบบธุรกิจที่มุ่งสู่อนาคตของเราขับเคลื่อนประสิทธิภาพได้อย่างไร เรามีประเพณีอันยาวนานในการเป็นธุรกิจที่ก้าวหน้าและมีความรับผิดชอบ”

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของประเพณีดังกล่าวในปัจจุบัน กลยุทธ์ทางธุรกิจของ Unilever เน้นย้ำด้านความยั่งยืน โดยทุ่มเทให้กับทั้งสุขภาพส่วนบุคคลและสุขภาพของโลก จากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปจนถึงการรีไซเคิลพลาสติก King กล่าวว่า “การดำเนินการเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน” ด้วยแบรนด์กว่า 400 แบรนด์ทั่วโลก รวมถึง Dove, Seventh Generation, Vaseline และอื่น ๆ อีกมากมาย Unilever ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนในช่วงเวลาที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับทั้งแบรนด์ต่าง ๆ และตัวผู้บริโภคเอง

ครีมนวดผมสูตรอ่อนโยนผสมเคราติน TreSemme โปร คอลเล็กชัน
แชมพูบำรุงเส้นผมผสมเคราติน TreSemme โปร คอลเล็กชัน
แชมพูสูตรอ่อนโยนผสมเคราติน TreSemme โปร คอลเล็กชัน

Unilever ได้เปิดตัวคอลเล็กชันสินค้าสำหรับเส้นผมชนิดเข้มข้นจาก TRESemmé และ Dove เฉพาะใน Amazon Store เท่านั้น เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นและมีความยั่งยืนมากขึ้น สินค้าชนิดเข้มข้นเหล่านี้สามารถชำระล้างสิ่งสกปรกได้มากกว่าสินค้าชนิดไม่เข้มข้นถึงสองเท่า

การทำความสะอาดที่ต้องใช้มากกว่าสบู่

ในปี 2021 ทาง Unilever ได้รับ รางวัล Global Gold Class ในงาน S&P Global Corporate Sustainability Assessment และ คะแนน “AAA” จาก CDP ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ไม่แสวงหากำไรด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ความพยายามของพวกเขาเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แบรนด์ต่าง ๆ จะต้องเป็นพลเมืองโลกที่มีความรับผิดชอบอย่างเร่งด่วน

ในเดือนเมษายน 2022 สหประชาชาติตีพิมพ์รายงานที่ระบุถึง “ภาวะฉุกเฉินสภาพภูมิอากาศ” อันแสนน่ากลัวที่กำลังเกิดขึ้นกับมนุษยชาติ ตามรายงานฉบับนี้ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนักวิทยาศาสตร์หลายร้อยคน ประเทศต่าง ๆ จะต้องเพิ่มความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อจำกัดภาวะโลกร้อนให้อยู่ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียสโดยจะต้องทำ “ก่อนจะสายเกินไป”

“ปัญหาที่โลกกำลังเผชิญเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งธุรกิจ รัฐบาล พันธมิตรค้าปลีก องค์กรไม่แสวงหากำไร นักกิจกรรม และประชาชน” King กล่าว

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของ Unilever แบรนด์นี้มุ่งเน้นไปที่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยมีแผนที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2039 Unilever ยังมีพันธกิจในการลดการใช้พลาสติกใหม่ (หรือพลาสติที่ไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้) ให้เหลือเพียง 50% ภายในปี 2025 (Dove, Hellmann’s และ Seventh Generation ใช้ PCR 100% ในบรรจุภัณฑ์ส่วนใหญ่แล้ว) ในอเมริกาเหนือ Unilever ได้ลงทุน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐในกองทุนผู้นำของ Closed Loop Partners' เพื่อช่วยในการรีไซเคิลขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกประมาณ 60,000 เมตริกตันต่อปีภายในปี 2025

เนื่องจากความร้ายแรงของสถานการณ์ ผู้บริโภคจำนวนมาก จึงให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนเวลาตัดสินใจซื้อสินค้า

รายงานล่าสุดจาก Amazon Ads and Environics Research พบว่า 62% ของผู้บริโภคจะกระตือรือร้นมองหาแบรนด์ที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน นอกจากนั้น 73% ของผู้บริโภคเบื่อหน่ายแบรนด์ที่ทำเหมือนตัวเองไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และ 62% ของผู้บริโภคระบุว่าความยั่งยืนมีความสำคัญต่อพวกเขามากขึ้นในช่วงสามปีที่ผ่านมา

“Unilever ลงทุนในความพยายามด้านความยั่งยืนมานานหลายทศวรรษแล้ว และเราเชื่อว่าการทำเช่นนี้จะรับประกันถึงอนาคตของธุรกิจของเรา” King กล่าว

quoteUpหากโลกและสังคมไม่แข็งแรง ก็จะไม่มีธุรกิจที่แข็งแรงเช่นกัน และแน่นอน เราเห็นว่าผู้บริโภคสนใจที่จะทำให้แน่ใจว่าการตัดสินใจในการซื้อสินค้าของพวกเขามีส่วนช่วยส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ดี ดังนั้นความพยายามของเราจึงมีส่วนร่วมในการสร้างความไว้วางใจที่ผู้บริโภคมีต่อเราquoteDown
— Niki King หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนของ Unilever อเมริกาเหนือ

เข้าถึงลูกค้าด้วยการส่งข้อความที่ยั่งยืนมากกว่า

Soumya Donkada หัวหน้าฝ่ายอีคอมเมิร์ซของ Unilever กล่าวว่า ผู้บริโภคบางรายอาจยังคงกำลังเปลี่ยนวิถีชีวิตให้มีความยั่งยืนมากขึ้น

“เรารู้ว่าผู้บริโภคแต่ละรายอยู่ในระยะที่ต่างกันในเส้นทางแห่งความยั่งยืน ผู้บริโภคในปัจจุบันมีปากมีเสียง และมีผู้บริโภคจำนวนมากในปัจจุบันที่ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าโดยดูจากความยั่งยืนหรือเพราะเชื่อมั่นในบริษัท” Donkada กล่าว "อย่างไรก็ตาม มีผู้บริโภคจำนวนมากที่ยังคงพยายามเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวันของพวกเขา”

Unilever ได้เปิดตัวคอลเล็กชันสินค้าสำหรับเส้นผมชนิดเข้มข้นจาก TRESemmé และ Dove เฉพาะใน Amazon Store เท่านั้น เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นและมีความยั่งยืนมากขึ้น Donkada กล่าวว่าสินค้าเช่นนี้ช่วยขจัด "ปัจจัยยุ่งยาก" สำหรับผู้บริโภคที่พยายามตัดสินใจซื้ออย่างยั่งยืนมากขึ้น Donkada กล่าวว่าสินค้าชนิดเข้มข้นหนึ่งแพ็คสามารถสระผมได้มากเป็นสองเท่าของรุ่นที่ไม่เข้มข้น

“การเพิ่มความเข้มข้นเป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการทำให้การใช้ชีวิตที่ยั่งยืนง่ายขึ้นสำหรับผู้บริโภคในกิจวัตรการดูแลเส้นผมของพวกเขา และยังเพิ่มความตื่นเต้นด้วยฟองที่มากขึ้นและให้สรรพคุณที่พวกเขาต้องการได้รวดเร็วขึ้น” Donkada กล่าว “ตัวสินค้าใช้งานสะดวก ทั้งการซื้อก็สะดวกเช่นกัน เพียงคลิกเดียวบน Amazon.”

การศึกษาเดียวกันของ Amazon Ads และ Environics Research แสดงให้เห็นว่า 72% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะทำการค้นคว้าข้อมูลด้วยตัวเองในการหาตัวเลือกสินค้าที่มีความยั่งยืน ในบรรดาผู้บริโภคที่ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับ สินค้าที่ยั่งยืนมากขึ้นมีถึง 33% ที่ระบุว่าการได้รับการรับรองจากบุคคลที่สามเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุด

Unilever ยังมีสินค้าจำนวนมากบน Amazon ที่เป็นส่วนหนึ่งของ โปรแกรม Climate Pledge Friendly บน Amazon ฉลากใน Amazon Store จะมีการระบุสินค้าที่ได้รับการรับรองด้านความยั่งยืนอย่างน้อยหนึ่งรายการ Dove, Axe, Seventh Generation, Suave, Degree, TRESemmé และ Vaseline เป็นหนึ่งในบรรดาแบรนด์ของ Unilever ที่นำเสนอสินค้าที่อยู่ในโปรแกรม Climate Pledge Friendly Unilever ยังมีสินค้าอีกหลายตัวที่สามารถรีฟิลได้

“เรามุ่งมั่นที่จะสร้างทางเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้นในพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์เราเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเป็นภาระของผู้บริโภค” Donkada กล่าว “พวกเขายังสามารถซื้อแบรนด์ที่พวกเขาไว้วางใจและสินค้าที่มีคุณภาพที่พวกเขาชื่นชอบต่อไป และเราจะทำหน้าที่สร้างความมั่นใจว่าสินค้าต่าง ๆ จะมีความยั่งยืนมากขึ้น โดยการเพิ่มสิ่งที่นำไปรีไซเคิลได้ในบรรจุภัณฑ์ ทำให้บรรจุภัณฑ์สามารถนำไปรีไซเคิลได้ และมีฉลากบอกวิธีการรีไซเคิล และมุ่งมั่นทำให้การดำเนินธุรกิจของเราลดการสร้างคาร์บอน”

Donkada กล่าวว่าทาง Unilever หวังว่าการทำสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดผลกระทบเชิงบวกมากขึ้นต่อโลก

หากคุณสนใจที่จะทำการโฆษณาสินค้าในโปรแกรม Climate Pledge Friendly ของคุณโปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้า Amazon Ads ของคุณ