Hedda ถ่ายทอดงานเล่าเรื่องที่ซับซ้อนให้เข้าถึงทกลุ่มเป้าหมายทั่วโลกได้อย่างไร

ศิลปะอันยอดเยี่ยมล้วนชวนให้กลุ่มเป้าหมายเผชิญหน้ากับความจริงที่ซ่อนอยู่ในตัวเอง และความซับซ้อนทางจิตวิทยานั้นก็มีอยู่มากมายในภาพยนตร์เรื่องใหม่อันกล้าหาญของ Amazon MGM Studios และ Orion Pictures ภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งเป็นการตีความใหม่อย่างท้าทายจากบทละครคลาสสิกปี 1890 Hedda Gabler ของ Henrik Ibsen ได้แปรรูป Hedda เจ้าสาวปริศนา (รับบทโดย Tessa Thompson) ให้กลายเป็นการสำรวจประเด็นร่วมสมัยเกี่ยวกับอำนาจ ความปรารถนา และการปฏิเสธของผู้หญิงที่จะถูกจำกัดขอบเขต ภาพยนตร์ดัดแปลงอันกล้าหาญเรื่องนี้ เขียนและกำกับโดย Nia DaCosta โดยพาเหล่าตัวละครดำดิ่งสู่เส้นทางอันอันตรายของการควบคุม ความใคร่ ความหึงหวง และการทรยศ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในงานปาร์ตี้สุดวุ่นวายเพียงคืนเดียว

แต่เหนือไปจากสไตล์ภาพอันโดดเด่นและการแสดงที่สะกดสายตา สิ่งที่กลุ่มเป้าหมายเชื่อมโยงได้จริงคือ ความปั่นป่วนภายในใจของตัวละคร

“Hedda เป็นตัวอย่างของคนที่ทำเรื่องเหนือความคาดคิดเหล่านี้ ซึ่งบางครั้งก็เลวร้ายและมุ่งร้าย” Thompson กล่าว “แต่ฉันคิดว่าสิ่งที่เธอสะท้อนให้เราเห็น คือด้านมืดภายในตัวเราที่ทุกคนล้วนมีอยู่”

เหล่านักแสดงและทีมผู้สร้าง Hedda พูดคุยเกี่ยวกับการดัดแปลงบทละครคลาสสิกให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายยุคปัจจุบัน

สำหรับ DaCosta สิ่งที่ดึงดูดเธอให้สนใจ Hedda Gabler คือปริศนาที่ดำรงอยู่ไม่เสื่อมคลายของเรื่องนี้ “มันเหมือนกล่องปริศนาที่ไม่มีใครไขได้ และอาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกสร้างมาให้ไขได้ด้วยซ้ำ แต่ระหว่างที่พยายามไข คุณจะเริ่มตั้งคำถาม ซึ่งฉันคิดว่าเป็นคำถามสำคัญต่อประสบการณ์ความมีชีวิตของเรา” DaCosta อธิบาย

Tom Bateman ผู้รับบทเป็น George Tesman รู้สึกประทับใจทันทีที่เห็นว่าผู้กำกับสามารถให้เกียรติงานของ Ibsen ไปพร้อมกับการสร้างสิ่งใหม่อย่างสิ้นเชิงได้อย่างไร

“เธอมีความรัก ความเคารพ และความหลงใหลในต้นฉบับอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็ใส่มุมมองอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองลงไปอย่างเต็มที่” Bateman กล่าว

การถ่ายทอดเรื่องเล่าที่ซับซ้อนสู่กลุ่มเป้าหมายหลายล้านคน

ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนสำหรับโปรเจ็กต์นี้ DaCosta จึงเริ่มทำงานร่วมกับ Amazon MGM Studios เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวให้มีชีวิตขึ้นมา “สิ่งสำคัญที่สุดเวลาที่ฉันเลือกผู้ร่วมงาน โปรดิวเซอร์ หรือสตูดิโอคือ ฉันจะได้รับการสนับสนุนให้ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของตัวเองออกมาได้จริงหรือไม่” เธอกล่าว “ฉันได้รับการสนับสนุนจากสตูดิโอเพื่อทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีชีวิตชีวา เรามีคนต่อสู้เพื่อเราในสตูดิโอ“

สำหรับ Thompson การได้ทำงานกับสตูดิโอที่สามารถนำเสนอคอนเทนต์ที่ซับซ้อนไปสู่กลุ่มเป้าหมายหลายล้านคนได้ ถือเป็นเรื่องสำคัญเป็นพิเศษ “คุณจำเป็นต้องทำงานกับคนที่เข้าใจว่าสิ่งนั้นคืออะไร และเข้าใจว่าจะนำเสนอให้กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงได้อย่างไร” เธอกล่าว “หลายอย่างเกี่ยวข้องกับวิธีที่คุณทำการตลาดให้กับงานนั้น วิธีที่คุณนำเสนอมันต่อกลุ่มเป้าหมาย และเส้นทางที่คุณเลือกพามันไปต่อ”

Bateman เห็นว่าการสนับสนุนนี้ช่วยสร้างศิลปะที่ดีได้อย่างไร “เมื่อสตูดิโออย่าง Amazon ซึ่งมีพลังและทรัพยากร สนับสนุนวิสัยทัศน์ของใครสักคนอย่างจริงจัง ก็จะเกิดผลงานภาพยนตร์ที่น่าสนใจมากมายยิ่งขึ้น” เขากล่าว

Thompson ยังชื่นชมแนวทางการทำงานแบบร่วมมือกันของ Amazon ในการนำภาพยนตร์ออกสู่ตลาด “เราได้มีโอกาสให้ Amazon MGM พาภาพยนตร์ออกไปฉายตามสถานที่ต่าง ๆ และรับฟังปฏิกิริยาจากกลุ่มเป้าหมายแบบเรียลไทม์” เธอกล่าว “มันช่างเหลือเชื่อที่ได้ทำงานกับทีมที่รู้จริงว่าต้องทำอย่างไร”

สำหรับ Thompson ยังมีโอกาสอันน่าตื่นเต้นในการแนะนำผลงานของ Ibsen ให้กับคนรุ่นใหม่ด้วย “มีคนหนุ่มสาวจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ไม่เคยมีโอกาสพบ Ibsen ฉันไม่ได้อ่าน Ibsen ในโรงเรียน “ดังนั้นมันจึงรู้สึกน่าตื่นเต้นมากที่เราอาจเป็นตัวจุดประกายให้ผู้คน โดยเฉพาะผู้หญิง และยิ่งเป็นผู้หญิงวัยรุ่นได้รู้จักผลงานชิ้นนี้”

Hedda เปิดฉายในปีที่โดดเด่นเป็นพิเศษสำหรับคอนเทนต์ออริจินัลระดับพรีเมียมบน Prime Video ซีรีส์อย่าง Reacher และ The Summer I Turned Pretty ต่างก็ครองใจกลุ่มเป้าหมายและกลายเป็นประเด็นในวัฒนธรรมกระแสหลักในปี 2025 ด้วยชุดรายการออริจินัลใหม่ที่น่าตื่นเต้นจาก Prime Video แบรนด์ต่าง ๆ จะมีโอกาสมากมายในการเข้าถึงผู้ชมหลายล้านคน ผ่านโฆษณาสตรีมมิ่งทีวีภายในคอนเทนต์ของ Prime Video ด้วยโซลูชันเทคโนโลยีการโฆษณาอันทรงพลังของ Amazon Ads การช่วยให้แบรนด์เชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายผ่านคอนเทนต์ออริจินัลระดับพรีเมียมจึงง่ายกว่าที่เคย

สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงผู้บริโภคผ่านเนื้อหาพรีเมียม ตามรายงาน 2025 Beyond the Buy จาก Amazon Ads พบว่าผู้บริโภค 50% เห็นความบันเทิงเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการช้อปปิ้งของพวกเขา

ในยุคที่กลุ่มเป้าหมายโหยหาประสบการณ์ความบันเทิงแบบดื่มด่ำ Hedda คือรูปแบบการเล่าเรื่องที่เปิดโอกาสให้แบรนด์เชื่อมต่อกับผู้บริโภคได้อย่างมีความหมาย