คู่มือ
การโฆษณาดิจิทัลคืออะไร คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น
การโฆษณาดิจิทัลหรือการโฆษณาออนไลน์ เป็นรูปแบบของการตลาดที่บริษัทต่าง ๆ ใช้เพื่อโปรโมตแบรนด์ สินค้า หรือบริการ ผ่านช่องทางออนไลน์
เริ่มใช้ Amazon Ads เพื่อแสดงสินค้าและสร้างแคมเปญของคุณ
หากคุณมีประสบการณ์จำกัด โปรดติดต่อเราเพื่อขอรับบริการแบบมีการจัดการโดย Amazon Ads มีข้อกำหนดด้านงบประมาณขั้นต่ำ
สร้างโฆษณาแบบต้นทุนต่อคลิก เพื่อช่วยให้ลูกค้าพบสินค้าของคุณบน Amazon
ช่วยให้ลูกค้าค้นพบแบรนด์และสินค้าของคุณด้วยชิ้นงานโฆษณาที่ปรากฏในหน้าผลการช้อปปิ้งที่เกี่ยวข้องบน Amazon
การโฆษณาดิจิทัลคืออะไร
การโฆษณาดิจิทัลหมายถึงการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ เนื้อหาสตรีมมิง และอื่น ๆ โฆษณาดิจิทัลครอบคลุมสื่อรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงข้อความ รูปภาพ เสียง และวิดีโอ โฆษณาดิจิทัลช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายธุรกิจที่หลากหลายของกรวยการตลาด ตั้งแต่การรับรู้ของแบรนด์ ไปจนถึงการมีส่วนร่วมของลูกค้า ไปจนถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่ และผลักดันการขายซ้ำ
แวดวงการโฆษณาดิจิทัลยังค่อนข้างใหม่ เมื่อเปรียบเทียบกับช่องทางดั้งเดิม เช่น นิตยสาร บิลบอร์ด และไดเร็กเมล วิวัฒนาการของการโฆษณาไม่ใช่แค่ลักษณะของโฆษณาหรือตำแหน่งที่โฆษณาปรากฏ แต่ยังรวมถึงวิธีการสร้าง ขาย และวัดผลด้วย
ความแตกต่างระหว่างการโฆษณาดิจิทัลและการโฆษณาแบบดั้งเดิม
ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการโฆษณาดิจิทัลและการโฆษณาแบบดั้งเดิมคือความยืดหยุ่นและความแม่นยำ
ความยืดหยุ่น
ตัวอย่างหนึ่งของความยืดหยุ่นคือการที่โฆษณาดิจิทัลสามารถกระทำได้อย่างรวดเร็ว ขั้นตอนการพิมพ์และแจกจ่ายโฆษณาผ่านช่องทางแบบดั้งเดิม เช่น การส่งหนังสือพิมพ์ การเขียนป้ายบิลบอร์ด อาจกินเวลามหาศาล ในทางตรงกันข้าม การโฆษณาแบบดิจิทัลใช้เวลาที่สั้นกว่ามาก การขึ้นแสดงบนเว็บไซต์ทำได้แทบจะทันทีหลังจากสร้างโฆษณา สำหรับโฆษณาที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติตามแม่แบบมาตรฐาน กระบวนการนี้อาจใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
โฆษณาแบบดิจิทัลมีความยืดหยุ่นแม้ว่าจะเปิดใช้งานแคมเปญแล้วก็ตาม ต่างจากโฆษณาแบบพิมพ์ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเผยแพร่ไปแล้ว การปรับเนื้อหาโฆษณา ระยะเวลาและความถี่ การกำหนดเป้าหมาย และอื่น ๆ อาจกระทำได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละช่องทาง การโฆษณาดิจิทัลช่วยให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพขณะใช้งาน โดยการปรับเปลี่ยนแคมเปญโฆษณาตามประสิทธิภาพได้
การโฆษณาแบบดิจิทัลยังมีความยืดหยุ่นสูงมากในแง่ของงบประมาณ แคมเปญการโฆษณาดิจิทัลที่ซับซ้อนและมีรายละเอียดสูงอาจมีราคาแพงเท่ากับโฆษณาแบบดั้งเดิมหรือมากกว่า แต่ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเข้าถึงโฆษณาดิจิทัลได้โดยไม่ต้องมีงบประมาณมาก และอาจขยายหรือลดการโฆษณาตามเงินทุนของตนได้
ความแม่นยำ
อีกความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการโฆษณาแบบดิจิทัลและการโฆษณาแบบดั้งเดิมคือความแม่นยำ โฆษณาแบบดั้งเดิมในนิตยสาร ในทีวี หรือบนป้ายบิลบอร์ด มีการเข้าถึงทุกคนที่มองเห็น ในทางตรงกันข้าม การโฆษณาแบบดิจิทัลช่วยให้คุณใช้วิธีการกำหนดเป้าหมายที่แตกต่างกันได้ เพื่อให้มีความแม่นยำมากขึ้นและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มว่าจะสนใจโฆษณาของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณขายอุปกรณ์กลางแจ้ง คุณอาจเลือกที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่สนใจเดินป่า หรือสร้างการมีส่วนร่วมอีกครั้งกับนักช้อปที่เคยเลือกดูสินค้าของคุณแต่ยังไม่ได้ซื้อ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบ คุณอาจเลือกที่จะจำกัดโฆษณาของคุณในบางช่วงเวลาของวัน หรือยกเว้นกลุ่มเป้าหมายที่เคยดูโฆษณาของคุณแล้วครั้งหนึ่งจากการดูโฆษณาอีกครั้ง
เหตุใดการโฆษณาดิจิทัลจึงมีความสำคัญ
มีหลายเหตุผลที่ทำให้โฆษณาดิจิทัลเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การตลาดของธุรกิจใด ๆ บางทีสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่ผู้บริโภคใช้เวลาไปกับการท่องอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ผ่านคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน อุปกรณ์สมาร์ทโฮม ชาวอเมริกันโดยเฉลี่ยมีการเข้าถึงอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้มากกว่า 10 เครื่องในบ้านของตน1 การตลาดดิจิทัลช่วยให้คุณสามารถตอบสนองกลุ่มเป้าหมายในที่ที่พวกเขาอยู่
ผู้คนตัดสินใจเกี่ยวกับสินค้าและบริการที่ซื้อตลอดทุกช่วงเวลาของวัน ในระหว่างการทำกิจกรรมทุกชนิด ด้วยโฆษณาดิจิทัล คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายขณะกำลังเลือกดูสินค้าออนไลน์เพื่อซื้อได้ หรือคุณอาจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว ขณะที่กลุ่มเป้าหมายกำลังสตรีมรายการทีวี เยี่ยมชมเว็บไซต์โปรด หรือใช้โซเชียลมีเดีย แม้ว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ได้เลือกที่จะซื้อจากคุณในช่วงเวลานั้น แต่การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในบริบทที่แตกต่างกันเหล่านี้จะช่วยให้พวกเขาจดจำแบรนด์ของคุณไว้เผื่อซื้อในภายหลังเมื่อพร้อมได้
การโฆษณาดิจิทัลมีประเภทใดบ้าง
รูปแบบการโฆษณาในตลาดดิจิทัลมีหลายประเภท ต่อไปนี้คือตัวอย่างที่พบบ่อยที่สุด
การโฆษณาบนการค้นหา
โฆษณาการค้นหา หรือที่เรียกว่า Search Engine Marketing (SEM) จะปรากฏในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา (SERPs) โดยทั่วไปจะเป็นโฆษณาข้อความที่ปรากฏอยู่ด้านบนหรือด้านข้างของผลการค้นหาแบบออร์แกนิค
การโฆษณาแบบดิสเพลย์
โฆษณาแบบดิสเพลย์ คือโฆษณาออนไลน์ที่ใช้องค์ประกอบข้อความและภาพ เช่น รูปภาพหรือภาพเคลื่อนไหว และสามารถปรากฏบนเว็บไซต์ แอป และอุปกรณ์ต่าง ๆ โฆษณาประเภทนี้จะปรากฏในหรือควบคู่ไปกับเนื้อหาของเว็บไซต์
การโฆษณาวิดีโอออนไลน์
โฆษณาวิดีโอออนไลน์ คือโฆษณาที่ใช้รูปแบบวิดีโอ โฆษณาวิดีโอนอกสตรีมจะปรากฏในที่ที่คล้ายคลึงกับโฆษณาแบบดิสเพลย์ นั่นคือ บนเว็บไซต์ แอป และอุปกรณ์ต่าง ๆ โฆษณาวิดีโอในสตรีมจะปรากฏก่อน ระหว่าง หรือหลังจากเล่นเนื้อหาวิดีโอ
การโฆษณาสื่อสตรีมมิ่ง
หรือที่รู้จักกันในชื่อ over-the-top (OTT) โฆษณาประเภทนี้เป็นโฆษณาวิดีโอที่ปรากฏในเนื้อหาสื่อสตรีมมิ่งที่ส่งผ่านอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องใช้ดาวเทียมหรือสายเคเบิล
การโฆษณาด้วยเสียง
ในบริบทของการโฆษณาดิจิทัล Audio ads เป็นโฆษณาที่เล่นก่อน ระหว่าง หรือหลังเนื้อหาเสียงออนไลน์ เช่น สตรีมเพลง หรือพอดแคสต์
การโฆษณาด้วยโซเชียลมีเดีย
โฆษณาโซเชียลมีเดียปรากฏในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Twitter หรือ LinkedIn
โฆษณาดิจิทัลทำงานอย่างไร
ไม่ได้มีเพียงคำตอบเดียวสำหรับคำถามที่ว่า “โฆษณาดิจิทัลทำงานอย่างไร” ด้วยความหลากหลายของรูปแบบโฆษณาดิจิทัล คุณสามารถหาโฆษณาที่ง่ายต่อการสร้างและเผยแพร่ ได้เช่นเดียวกับโฆษณาที่ต้องใช้เครื่องมือที่ซับซ้อนมากขึ้น ยังมีประเภทโฆษณาสำหรับงบประมาณทุกระดับ โดยมีรูปแบบการกำหนดราคาและวิธีระบุเป้าหมายแตกต่างกันไป
การเผยแพร่โฆษณาดิจิทัล
วิธีการเผยแพร่โฆษณาดิจิทัลจะกำหนดโดยประเภทโฆษณาที่เฉพาะเจาะจง ด้วยโฆษณาบางประเภท คุณจะสามารถซื้อพื้นที่โฆษณา ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับโฆษณาบนเว็บไซต์ที่กำหนด หรือผู้เผยแพร่โฆษณา ซึ่งทำได้โดยตรงจากผู้เผยแพร่ ตัวอย่างเช่น Sponsored Brands และ Sponsored Products เป็นโฆษณาที่แสดงเฉพาะบน Amazon
โฆษณาดิจิทัลยังสามารถซื้อได้ด้วยโปรแกรม การโฆษณาแบบตั้งโปรแกรม คือการซื้อและขายพื้นที่การโฆษณาดิจิทัลโดยอัตโนมัติ ทั้งการโฆษณาแบบดิสเพลย์และการโฆษณาวิดีโอ คุณสามารถใช้แพลตฟอร์มด้านอุปสงค์ (DSP) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ซื้อและจัดการพื้นที่โฆษณาดิจิทัลแบบอัตโนมัติจากผู้เผยแพร่หลายราย แพลตฟอร์มด้านอุปทานหรือแพลตฟอร์มด้านการขาย (SSP) เป็นซอฟต์แวร์ที่ผู้เผยแพร่ใช้ในการขายและจัดการพื้นที่โฆษณาของตนโดยอัตโนมัติ
ค่าใช้จ่ายของการโฆษณาดิจิทัล
ค่าใช้จ่ายของการโฆษณาดิจิทัลแตกต่างกันไปตามรูปแบบ การกำหนดราคาประเภททั่วไปคือ ต้นทุนต่อคลิก (CPC) หรือจ่ายเงินต่อคลิก (PPC) ซึ่งเป็นรูปแบบการกำหนดราคาที่คุณชำระเงินทุกครั้งเมื่อมีผู้คลิกโฆษณาของคุณ อีกประเภทหนึ่งคือ ต้นทุนต่อพันครั้ง (CPM) ซึ่งหมายถึงค่าใช้จ่ายต่อจำนวนการแสดงผลของโฆษณาพันครั้ง นี่คือรูปแบบการกำหนดราคาที่คุณจ่ายเงินจำนวนหนึ่งที่แน่นอนสำหรับจำนวนการแสดงของโฆษณาหรือจำนวนครั้งที่โฆษณาปรากฏ 1,000 ครั้ง
คุณอาจชำระเงินโดยใช้รูปแบบอื่น เช่น ชำระเงินทุกครั้งที่โฆษณาของคุณนำไปสู่การดำเนินการที่ต้องการ (เช่น มีคนลงชื่อสมัครรับอีเมลการตลาดหรือดาวน์โหลด eBook ของคุณ) เนื่องจากการโฆษณาแบบดิจิทัลสามารถวัดได้หลายวิธี ตั้งแต่ความถี่ที่โฆษณาปรากฏ มีการคลิก นำไปสู่การขาย และอื่น ๆ อีกมากมาย จึงสามารถปรับราคาให้เหมาะกับฟังก์ชันที่ต้องการของโฆษณาได้
การระบุเป้าหมายสำหรับโฆษณาดิจิทัล
ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว การโฆษณาดิจิทัลมีความแม่นยำสูงกว่าการโฆษณาในรูปแบบดั้งเดิมมาก การจับคู่โฆษณากับผู้ชมทำได้หลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับประเภทของโฆษณา โฆษณาการค้นหามีเป้าหมายอยู่ที่คำค้นหาที่เฉพาะเจาะจง โฆษณายังสามารถจับคู่ตามสัญญาณการจับจ่าย เช่น กลุ่มเป้าหมายมีการซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณ หรือแสดงความสนใจในสินค้าประเภทเดียวกับที่คุณขาย
ผลลัพธ์ของความสามารถในการจับคู่ที่แข็งแกร่งนี้คือ กลุ่มเป้าหมายจะเห็นโฆษณาที่มีแนวโน้มเกี่ยวข้องกับตนมากขึ้น การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องจะช่วยเพิ่มความสำเร็จของโฆษณาดิจิทัล และป้องกันไม่ให้คุณใช้งบประมาณการตลาดไปกับการแสดงโฆษณาแก่กลุ่มเป้าหมายที่ไม่สนใจสินค้าหรือบริการของคุณ
เมทริกซ์การโฆษณาดิจิทัล
โฆษณาดิจิทัลสามารถวัดประสิทธิภาพได้ในเกือบทุกแง่มุม ในการวัดแคมเปญการโฆษณาดิจิทัลของคุณ คุณอาจใช้เมทริกซ์การมีส่วนร่วมต่อไปนี้
- ยอดคลิก: มีการคลิกโฆษณาของคุณกี่ครั้ง
- จำนวนการแสดงผลของโฆษณา: จำนวนครั้งที่โฆษณาของคุณปรากฏ
- อัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็น (CTR): เปอร์เซ็นต์จำนวนการแสดงผลของโฆษณาที่ส่งผลให้เกิดการคลิก
- การเข้าถึง: จำนวนผู้ชมที่เห็นโฆษณาของคุณ
- อัตราการเล่นวิดีโอจนจบ: จำนวนครั้งที่ผู้ชมซึ่งเห็นโฆษณาวิดีโอของคุณดูโฆษณาจนจบ
เมทริกซ์ต่อไปนี้จะวัดผลลัพธ์ของแคมเปญ:
- อัตราคอนเวอร์ชัน: จำนวนครั้งที่ลูกค้าดำเนินการตามต้องการ (คลิก ซื้อ สมัครใช้งาน) หลังจากดูโฆษณาของคุณ
- ยอดขายจากการที่แสดงโฆษณา: การซื้อที่สามารถตรวจสอบย้อนไปถึงโฆษณาของคุณ (รูปแบบการแสดงที่มาจะแตกต่างกันไปตามประเภทและบริการโฆษณา)
- ผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS): รายได้จากแคมเปญโฆษณาของคุณเทียบกับงบประมาณที่ใช้ไป
- ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI): คุณได้กำไรสุทธิที่ได้จากแคมเปญโฆษณาของคุณเท่าไรเทียบกับงบประมาณที่คุณใช้ไป
- ค่าใช้จ่ายการโฆษณาและยอดขาย (ACOS): อัตราส่วนของการใช้จ่ายโฆษณาต่อยอดขายที่เกิดจากการโฆษณา
- ยอดขายจากลูกค้าใหม่ของแบรนด์ ยอดขายจากลูกค้าที่ไม่เคยซื้อของจากคุณมาก่อน
เคล็ดลับและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการโฆษณาดิจิทัล
กลยุทธ์การโฆษณาดิจิทัลอาจมีความซับซ้อน แต่มีแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดที่สำคัญบางประการที่เหมาะแก่การเริ่มต้น
เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม
ใช้ประโยชน์จากความแม่นยำในการระบุเป้าหมายของโฆษณาดิจิทัล เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะพบว่าโฆษณาของคุณมีความเกี่ยวข้องและมีส่วนร่วมกับโฆษณาของคุณมากขึ้น
ติดตามประสิทธิภาพ
เมทริกซ์ประสิทธิภาพสำหรับโฆษณาดิจิทัลสามารถติดตามได้ใกล้เคียงกับเวลาจริงมากกว่าโฆษณาในรูปแบบดั้งเดิม ติดตามประสิทธิภาพแคมเปญโฆษณาของคุณ เพื่อดูว่าสิ่งใดได้ผลและไม่ได้ผล เพื่อให้การใช้จ่ายโฆษณาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ทดสอบและเพิ่มประสิทธิภาพ
คุณสามารถปรับแต่งโฆษณาดิจิทัลได้เกือบทุกแง่มุม ตั้งแต่ถ้อยคำที่ใช้ไปจนถึงรูปภาพ เซ็กเมนต์กลุ่มเป้าหมายที่คุณกำลังเข้าถึง งบประมาณของคุณและอื่น ๆ วิธีที่ดีที่สุดในการค้นหาความสำเร็จกับแคมเปญโฆษณาดิจิทัลคือการหมั่นทดสอบตัวแปรต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพให้สูงสุด ทำให้การปรับปรุงประสิทธิภาพเป็นส่วนหนึ่งที่จำเป็นในการดำเนินการแคมเปญของคุณ
มีความจริงใจ
โฆษณาดิจิทัลยังคงมีความซับซ้อน กลุ่มเป้าหมายของคุณก็เช่นกัน กลุ่มเป้าหมายออนไลน์มีความสามารถในการจำแนกแยกแยะ ถ้อยคำโฆษณาที่ไม่พิถีพิถันหรือเนื้อหาโฆษณาที่ไม่เกี่ยวข้องจะไม่ทำให้คุณประสบความสำเร็จ ในทุกแง่มุมของกลยุทธ์การโฆษณาแบบดิจิทัล แอสเซทภาพ การส่งข้อความ หรือแม้แต่กลุ่มเป้าหมายที่คุณเลือกที่จะเข้าถึง จงจริงใจกับสิ่งที่นำเสนอ เพื่อที่จะมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง
หากคุณต้องการรับการสนับสนุนและคำแนะนำเพิ่มเติม โปรดติดต่อขอรับบริการแบบมีการจัดการโดย Amazon Ads มีข้อกำหนดด้านงบประมาณขั้นต่ำ
1 Statista, 2021