Prime Day 2025: กลยุทธ์ขั้นสูงเพื่อช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ

ในปี 2024 สมาชิก Prime ทั่วโลกซื้อสินค้ามากกว่าช่วง Prime Day ในปีก่อนหน้า ผู้ขายอิสระซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็กและปานกลางขายสินค้าได้มากกว่า 200 ล้านรายการในระยะเวลา 48 ชั่วโมงของอีเวนต์

คู่มือนี้จะบอกกลยุทธ์ที่สามารถนำไปดำเนินการได้ที่จะช่วยให้คุณโดดเด่นในช่วง Prime Day 2025 และใช้ประโยชน์สูงสุดจากการเข้าชมที่เพิ่มขึ้น

เปิดตัวแคมเปญ Sponsored Products สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและสินค้าที่มีดีล ตรวจสอบประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์และเพิ่มประสิทธิภาพการประมูลในช่วงเวลาการจับจ่ายสูงสุด มุ่งเน้นไปที่สินค้าที่มีหน้ารายละเอียดที่ให้ข้อมูลครบถ้วนเพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการคอนเวอร์ชัน

ใช้ Sponsored Brands เพื่อสร้างความโดดเด่นและสร้างความแตกต่างให้แบรนด์ของคุณโดยใช้วิดีโอและรูปภาพไลฟ์สไตล์ เชื่อมโยงไปยังหน้า ร้านค้าแบรนด์ ที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อกระตุ้นการเข้ามาสำรวจแบรนด์ให้ลึกซึ้งขึ้นและเพิ่มยอดขาย แคมเปญ “ขับเคลื่อนการเข้าชมหน้า” ของ Sponsored Brands ด้วยหน้าแรกของร้านค้าแบรนด์ พบว่ายอดขายที่เกิดจากการโฆษณาเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับตัวเลือกหน้าแรกอื่น ๆ²

โฆษณาดิสเพลย์ช่วยเพิ่มการเข้าถึงของคุณนอกเหนือจาก Amazon Store ซึ่งช่วยเหลือให้นักช้อปคุ้นเคยกับแบรนด์ของคุณก่อนที่ Prime Day จะเริ่มขึ้น ใช้ประโยชน์จากโฆษณาดิสเพลย์เพื่อมีส่วนร่วมกับผู้เข้าชมร้านค้าอีกครั้ง และเชื่อมต่อกับผู้ซื้อที่เรียกดูหมวดหมู่สินค้าที่คล้ายกัน

ผู้โฆษณาที่ใช้ Sponsored Brands และโฆษณาดิสเพลย์ในช่วง Prime Day 2024 พบว่ายอดขายเพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตเฉลี่ยของหมวดหมู่³

รูปแบบโฆษณาวิดีโอ จะช่วยสาธิตตัวสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพให้แก่ผู้ซื้อที่ต้องการซื้อ เน้นคุณสมบัติที่สำคัญและประโยชน์ของสินค้าในสามวินาทีแรก และนำวิดีโอไปใช้ในร้านค้าแบรนด์ของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนครึ่งหน้าบนของหน้าโฮมเพจเพื่อกระตุ้นการเข้ามาดู

• สำหรับ Sponsored Brands ให้ลองกำหนดให้ “การเพิ่มการเข้าชมหน้า” เป็นเป้าหมายของแคมเปญโดยใช้โฆษณาวิดีโอ และเชื่อมโยงไปยัง หน้ารายละเอียดสินค้าที่ขายดีที่สุดของคุณ เลือกใช้การระบุเป้าหมายคีย์เวิร์ดเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง วิธีการนี้จะช่วยแสดงให้เห็นประโยชน์หลักของสินค้าของคุณให้ผู้ซื้อที่กำลังค้นหาสินค้าที่คล้ายคลึงกันได้เห็น เป็นการเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนความสนใจให้กลายเป็นยอดขาย
• หรือลองใช้แคมเปญของ Sponsored Brands “ขับเคลื่อนการเยี่ยมชมเพจ” พร้อมคอลเลกชันสินค้าที่เชื่อมโยงไปยังหน้าแรกหรือหน้าย่อยของร้านค้าแบรนด์ของคุณ วิธีนี้ช่วยให้คุณสามารถจัดแสดงสินค้าของคุณได้มากขึ้น ช่วยให้ผู้ซื้อคุ้นเคยกับแบรนด์ของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้าที่โฆษณาปรากฏขึ้นอย่างเด่นชัดที่ด้านบนของหน้าแรก
• เราขอแนะนำให้ใช้กลยุทธ์การกำหนดเป้าหมายคีย์เวิร์ดและกำหนดเป้าหมายสินค้าในแคมเปญแยกต่างหาก และป้องกันการแสดงผลที่ไม่พึงประสงค์โดยใช้รายการเชิงลบของสินค้าเฉพาะแบรนด์หรือคีย์เวิร์ดราคาสูงที่ไม่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการคลิกและยอดขาย วิธีนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าโฆษณาของคุณจะไม่ไปปรากฏขึ้นในหน้ารายละเอียดสินค้าหรือหน้าผลการช้อปปิ้งเหล่านั้น
• ดึงดูดความสนใจของลูกค้านอก Amazon Store ด้วยโฆษณาดิสเพลย์แบบมีวิดีโอ ผู้โฆษณาที่เพิ่มโฆษณาดิสเพลย์แบบมีวิดีโอเข้าไปในแคมเปญ Sponsored Product, Sponsored Brand หรือโฆษณาดิสเพลย์ของตน พบว่ายอดขายที่เกิดจากโฆษณาเพิ่มขึ้นถึง 24% เมื่อเทียบกับแคมเปญที่ไม่มีโฆษณาดิสเพลย์แบบมีวิดีโอ⁴

• เวลาที่ใช้การกำหนดเป้าหมายสินค้า ให้ใส่สินค้าจากแบรนด์อื่น ๆ ที่คล้ายกับของคุณลงไปด้วย เพิ่มราคาประมูลเวลาที่คุณเชื่อว่าสินค้าของคุณนำเสนอคุณค่าที่มากกว่าให้กับนักช้อป เช่น ราคาที่ต่ำกว่าหรือจำนวนรีวิวห้าดาวที่มากกว่า

• ใช้ประโยชน์จากการปรับราคาประมูลแคมเปญแบบใหม่ในแคมเปญของ Sponsored Brands เพื่อเข้าถึงนักช้อปที่เป็นลูกค้าใหม่ของแบรนด์หรือตำแหน่งโฆษณาอื่นนอกเหนือจากด้านบนของการค้นหาอย่างมั่นใจมากขึ้น
• ลองใช้การระบุเป้าหมายตามธีม สำหรับ Sponsored Brands เพื่อลดความซับซ้อนในการกำหนดเป้าหมาย การระบุเป้าหมายตามธีมใช้แมชชีนเลิร์นนิ่งเพื่อช่วยกระตุ้นจำนวนการเข้าชมที่เกี่ยวข้องตามแบรนด์ หน้าแรก และสินค้าของคุณ
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกำลังใช้การควบคุมต้นทุนทั้งใน Sponsored Brands และโฆษณาดิสเพลย์ การควบคุมต้นทุนจะจัดการราคาประมูลในนามของคุณโดยอัตโนมัติเพื่อช่วยเหลือให้คุณกระตุ้นคอนเวอร์ชันในราคาที่เหมาะสมกับคุณ

ผู้โฆษณาที่ใช้ “การควบคุมต้นทุน” ในแคมเปญโฆษณาดิสเพลย์พบว่ายอดขายจากการที่แสดงโฆษณาเพิ่มขึ้น 2.6 เท่าต่อแคมเปญโดยเฉลี่ยเมื่อเทียบกับแคมเปญที่ไม่ได้ใช้⁵

อ่านคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญต่อไปนี้เกี่ยวกับการจัดการงบประมาณและการประมูลจาก Florian Nottorf of Adference:

“ทบทวนงบประมาณและการประมูลของคุณอย่างครบวงจรและดูภาพใหญ่ Prime Day เป็นโอกาสในการปรับขนาดเชิงกลยุทธ์และช่วยให้มั่นใจได้ว่าคุณจะไม่พลาดการเข้าชมที่เพิ่มขึ้นและในที่สุดก็จะกลายเป็นการเติบโตของยอดขายและการเติบโตแบบออร์แกนิก

จำนวนการเข้าชมอาจจะยังไม่มากก่อนถึงวัน Prime Day แต่จำนวนการเข้าชมจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น และหากคุณใช้งบประมาณหมดแล้ว คุณจะพลาดช่วงการจับจ่ายสูงสุดที่แท้จริงในช่วงที่สำคัญที่สุด ซึ่งก็คือช่วงระหว่างกิจกรรม ตรวจสอบขีดจำกัดงบประมาณและตรวจสอบแคมเปญของคุณเป็นประจำ มีการเลือก 'จำกัดงบประมาณ' หรือไม่ หากใช่ ให้เพิ่มงบประมาณของคุณ มิฉะนั้นคุณจะเสี่ยงที่โฆษณาของคุณจะไม่ปรากฏขึ้นต่อหน้าลูกค้าในช่วงเวลาที่วุ่นวายที่สุดของ Prime Day เริ่มปรับขนาดงบประมาณล่วงหน้า 3—5 วันก่อน Prime Day และให้เพิ่มงบประมาณสัก 20— 30% เพื่อให้แคมเปญของคุณมีเวลาได้ปรับตัว

สำหรับแคมเปญที่มีประสิทธิภาพสูง ให้ใช้งบประมาณแบบเปิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแคมเปญค้นหาที่มีชื่อแบรนด์และไม่มีชื่อแบรนด์ที่มี ROAS ที่แข็งแกร่ง สิ่งนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าโฆษณาของคุณจะยังคงทำงานต่อไปเมื่อจำนวนการเข้าชมเพิ่มขึ้น“

ในช่วง Prime Day นักช้อปจะค้นหาข้อเสนออย่างกระตือรือร้น ร้านค้าแบรนด์ของคุณช่วยทำให้จำนวนการเข้าชมที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดการคอนเวอร์ชันโดยการแสดงข้อเสนอของคุณในพื้นที่ที่ส่งเสริมการสำรวจผลิตภัณฑ์และช่วยแนะแนวทางในการตัดสินใจซื้อ

• แสดงข้อเสนอของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ: ร้านค้าแบรนด์ของคุณมี “หน้าข้อเสนอทั้งหมด” ปรากฏขึ้นอัตโนมัติในเมนูนำทาง สิ่งนี้จะแสดงข้อเสนอปัจจุบันและสร้างแบนเนอร์ส่งเสริมการขายอัตโนมัติบนหน้าแรกของคุณเพื่อเพิ่มการการมองเห็น องค์ประกอบเหล่านี้จะอัปเดตโดยอัตโนมัติเมื่อข้อเสนอหมดอายุ ช่วยรักษาโปรโมชั่นที่ถูกต้องตรงตามข้อกำหนดของตลาด
• ปรับหน้าแรกของคุณให้เหมาะสม: นำเสนอสินค้าที่ประสบความสำเร็จในอดีตและสินค้าที่ขายดีในปัจจุบันบนหน้าแรกของคุณเพื่อช่วยเพิ่มการมองเห็นสินค้าเหล่านั้น คุณสามารถใช้ไทล์ คอลเลกชันสินค้า หรือไทล์ข้อเสนอพิเศษ อย่าลืมว่า สิ่งสำคัญคือการเพิ่มสินค้าในดีลลงในหน้าของคุณก่อนที่จะเพิ่มไทล์ข้อเสนอพิเศษ
• การออกแบบสำหรับทุกอุปกรณ์: นำเสนอประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สม่ำเสมอบนเดสก์ท็อปและอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยใช้การนำทางที่ชัดเจนและข้อความที่สามารถอ่านได้ สำหรับแหล่งข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น รวมถึงขนาดฟอนต์ที่แนะนำสำหรับมือถือ โปรดอ่านบทความของเราเกี่ยวกับการปรับให้เหมาะสมสำหรับมือถือ

• ลองใช้เครื่องมือสร้างวิดีโอซึ่งเป็นเครื่องมือฟรีที่ใช้ AI ที่จะช่วยสร้างวิดีโอโฆษณาคุณภาพระดับมืออาชีพภายในไม่กี่นาทีในเวิร์กโฟลว์ Sponsored Brands วิดีโอที่สร้างโดย AI เหล่านี้สามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าโดยใช้ภาพที่สร้างการมีส่วนร่วมที่ถูกปรับมาให้เหมาะสมสำหรับโฆษณาวิดีโอของ Sponsored Brands⁶
• ใช้ โปรแกรมสร้างวิดีโอ เพื่อสร้างวิดีโอสำหรับโฆษณาของคุณในไม่กี่นาที คุณสามารถใช้เทมเพลตรูปภาพและข้อความที่เรียบง่ายเพื่อสร้างวิดีโอสำหรับ Sponsored Brands โฆษณาดิสเพลย์ และตำแหน่งโฆษณาวิดีโอออนไลน์อื่น ๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

เคล็ดลับการปรับปรุงประสิทธิภาพวิดีโอ:

• เปิดด้วยสินค้าที่สร้างชื่อให้แบรนด์ของคุณในสองวินาทีแรกเพื่อช่วยดึงดูดความสนใจ
• ใช้รูปภาพไลฟ์สไตล์ที่แสดงการใช้งานสินค้า
• ทำวิดีโอให้สอดคล้องกับการสร้างแบรนด์ของคุณในเนื้อหาวิดีโอเพื่อช่วยให้นักช้อปจดจำแบรนด์ของคุณได้อย่างง่ายดายตลอดกระบวนการช้อปปิ้งของพวกเขา
• เพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาวิดีโอของคุณให้สามารถรับชมแบบปิดเสียงแล้วรู้เรื่องเนื่องจากผู้ซื้อจำนวนมากเปิดดูโดยที่ปิดเสียง
• ใส่ตัวหนังสือลงไปให้ชัดเจนเพื่อสื่อสารข้อความสำคัญ และลองใส่คำบรรยายลงไปด้วยเพื่อเพิ่มการเข้าถึง

เครื่องมืออื่น ๆ เพื่อลดความซับซ้อนของเวิร์กโฟลว์ของโฆษณาคุณ

• เข้าไปที่เครื่องมือสร้างภาพ เพื่อสร้างภาพที่ปรับแต่งได้ในไม่กี่วินาทีที่สามารถนำไปใช้ในร้านค้าแบรนด์และแคมเปญโฆษณาของคุณได้ เพียงจัดหา ASIN และเครื่องมือจะสร้างฉากไลฟ์สไตล์ที่มีความเกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติซึ่งช่วยจัดแสดงสินค้าของคุณในการใช้งานจริง⁷

ออกแบบด้วย Canva: Amazon Ads และ Canva ได้ร่วมมือกันเพื่อจัดระเบียบเวิร์กโฟลว์โฆษณาของคุณโดยใช้แอป Amazon Ads สร้างรูปภาพและวิดีโอแบบมืออาชีพด้วยแม่แบบ Amazon Ads ตรวจสอบนโยบายแบบเรียลไทม์ และเผยแพร่โดยตรงไปยังคลังแอสเซทของชิ้นงานโฆษณาของคุณ นี่คือ วิธีการ⁸

เมื่อคุณทำการโฆษณากับลูกค้าธุรกิจในช่วง Prime Day สินค้าของคุณจะปรากฏในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องในAmazon Business วิธีการนี้สามารถช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับผู้ที่ทำการตัดสินใจซึ่งกำลังวางแผนจะทำการซื้อเป็นจำนวนมาก

ลูกค้าธุรกิจจะสั่งซื้อมากกว่าผู้บริโภครายบุคคล 74% ต่อคำสั่งซื้อและส่งคืนสินค้าน้อยกว่า 42%⁹

หากคุณเพิ่งเริ่มใช้งาน Amazon Business โปรดอ่านแหล่งข้อมูลการศึกษาของเราพร้อมคำแนะนำทีละขั้นตอน

ลองใช้เคล็ดลับต่อไปนี้ที่จะช่วยคุณวางแผนกลยุทธ์การโฆษณาสำหรับ Amazon Business:

1. เตรียมเพิ่มประสิทธิภาพรายการสินค้าสำหรับผู้ซื้อธุรกิจไว้ล่วงหน้า
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแค็ตตาล็อก B2B ของคุณอยู่ในสถานะที่อัปเดตแล้วและพร้อมสำหรับช่วง Prime Day
• ใช้ประโยชน์จาก Amazon Bulk Services และให้ความสำคัญสูงสุดกับ การสร้างลำดับชั้นของแพ็คเกจ รวมทั้งระบุหน่วยของสินค้าเป็นกล่องและเป็นพาเลท
• จัดแสดงธุรกิจของคุณโดยการเพิ่มความหลากหลายและแสดงใบรับรองคุณภาพไว้ในโปรไฟล์ผู้ขายของคุณ เพื่อช่วยเหลือธุรกิจที่ต้องการบรรลุเป้าหมายการใช้จ่ายหรือบรรลุจุดประสงค์การจัดซื้อ
• ใช้ B2B Central เพื่อสำรวจเครื่องมือที่หลากหลายที่สามารถช่วยให้คำแนะนำแก่คุณเกี่ยวกับโอกาสของสินค้าและราคาสำหรับลูกค้าธุรกิจ และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับส่วนลดเพื่อมีส่วนร่วมกับลูกค้าธุรกิจให้มากขึ้น
2. วางแผนงบประมาณของคุณและเพิ่มการเข้าถึงด้วยการเพิ่มราคาประมูลใน Amazon Business
• จัดสรรเงินทุนให้เพียงพอเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายธุรกิจ Amazon
• จัดสรรงบประมาณแต่ละระยะโดยตั้งงบประมาณจำนวนมากในช่วงระยะก่อนกิจกรรม ระหว่างกิจกรรม และหลังกิจกรรม ปรับราคาประมูลเพื่อจับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาทำการจัดซื้อของธุรกิจ
3. ตั้งค่ากลยุทธ์ Amazon Business ของคุณ
• ก่อนที่ Prime Day จะเริ่มต้น ให้ลองโฆษณา ASIN ที่คุณยังไม่ได้โฆษณาโดยใช้ Amazon Business มุ่งเน้นไปที่สินค้าที่คุณกำลังกระตุ้นจำนวนการเข้าชมแบบออร์แกนิกไปยังและจากที่ที่คุณได้รับคำสั่งซื้อทางธุรกิจ ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เรียนรู้จากแคมเปญเหล่านี้เพื่อกำหนดกลยุทธ์อย่างมีข้อมูลสำหรับช่วงกิจกรรม
• ในระหว่างกิจกรรม ให้จัดลำดับความสำคัญของ ASIN ที่มีดีลและสินค้าที่ลูกค้าธุรกิจซื้อบ่อย ๆ เช่น สินค้าแพ็คใหญ่ เครื่องมือสำหรับมืออาชีพ หรือวัสดุที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ และปรับราคาประมูลบน Amazon Business เพื่อเพิ่มการเข้าถึงของพวกเขา
• ขยายแคมเปญเพื่อให้ครอบคลุมรอบการจัดซื้อหลังวัน Prime Day ให้ทำการโฆษณาไปอย่างน้อยสองสัปดาห์หลังจาก Prime Day เพื่อรองรับลูกค้าที่อนุมัติล่าช้าหรือคำสั่งซื้อซ้ำ
• สร้างแคมเปญโดยคำนึงถึงผู้ซื้อธุรกิจ ใช้แคมเปญที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อช่วยกระตุ้นและชักนำทราฟฟิกมายังโฆษณาของคุณ
• ในขณะที่โฆษณาจะปรากฏขึ้นทั้งในร้านค้าปลีกของ Amazon และ Amazon Business คุณสามารถปรับแต่งการเลือก ASIN การส่งข้อความโฆษณา และการประมูลเพื่อดึงดูดลูกค้า B2B ให้ดียิ่งขึ้น
4. หมั่นตรวจสอบประสิทธิภาพและเพิ่มประสิทธิภาพในทันที
• ตรวจสอบประสิทธิภาพของ Amazon Business ผ่านรายงานตำแหน่ง Sponsored Products ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
• มองหาคำสั่งซื้อจำนวนมาก ขนาดคำสั่งซื้อเฉลี่ย และแนวโน้มการซื้อซ้ำ เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญตามข้อมูลเชิงลึก และจัดสรรงบประมาณใหม่ให้กับ ASIN ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่มีโมเมนตัม
• จัดสรรและปรับราคาประมูลของคุณอีกครั้งเมื่อใกล้จบอีเว้นต์และเลยไปจนถึงหลังจบอีเว้นต์ เพื่อยังคงมีส่วนร่วมกับนักช้อปต่อไปขณะที่ยังอยู่ภายใต้งบประมาณที่วางไว้

แหล่งที่มา

¹ข้อมูลภายใน Amazon, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออสเตรเลีย เบลเยียม บราซิล แคนาดา เยอรมนี อียิปต์ สเปน ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก นิวซีแลนด์ โปแลนด์ ซาอุดิอาระเบีย สวีเดน สิงคโปร์ ตุรกี สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ช่วงเวลาพื้นฐานคือ 07/07/24 - 13/07/24 ช่วงกิจกรรมหลักคือ 14/07/24 - 20/07/24

² ข้อมูลภายในของ Amazon, ทั่วโลก, กรกฎาคม 2024—ธันวาคม 2024

³ ข้อมูลภายใน Amazon, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออสเตรเลีย เบลเยียม บราซิล แคนาดา เยอรมนี อียิปต์ สเปน ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก นิวซีแลนด์ โปแลนด์ ซาอุดิอาระเบีย สวีเดน สิงคโปร์ ตุรกี สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ช่วงเวลาพื้นฐานคือ 07/07/24 - 13/07/24 ช่วงกิจกรรมหลักคือ 14/07/24 - 20/07/24

⁴ ข้อมูลภายใน Amazon, สหรัฐอเมริกา ช่วงเวลาพื้นฐานคือ ม.ค. 2024 ถึง ธ.ค. 2024 การเติบโตเฉลี่ยของแคมเปญในทุกหมวดหมู่ในปี 2024 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2023

⁵ ข้อมูลภายใน Amazon, ทั่วโลก, ม.ค. - มี.ค. 2025

⁶ มีให้บริการในสหรัฐอเมริกา

⁷ มีให้บริการในสหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน อินเดีย สวีเดน เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ เบลเยียม ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย

⁸ ไม่มีให้บริการในภูมิภาคจีน

⁹ ข้อมูลภายในของ Amazon จากผู้ขายในสหรัฐอเมริกาที่มียอดขายรายปี 80,000 ดอลลาร์ขึ้นไปในปี 2023