เจ็ดวิธีในการช่วยให้โฆษณาสินค้าเพื่อสุขภาพของคุณโดดเด่น

ผู้บริโภคจำนวนมากเลือกซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีอย่างจริงจัง พวกเขากำลังตัดสินใจว่าจะใช้วิตามินหรืออาหารเสริมตัวไหนกับร่างกายดี และนี่คือเหตุผลที่สำคัญที่ว่าทำไมแบรนด์ที่กำลังสร้างโฆษณาเพื่อสุขภาพต้องใช้ข้อความของแบรนด์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในการศึกษาล่าสุดของ Kantar นักช้อปสินค้าเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีจำนวน 60% กล่าวว่าชื่อแบรนด์เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการซื้อของพวกเขา1 และในโฆษณาสินค้าเพื่อสุขภาพเองก็มีสิ่งที่ต้องพิจารณาอีกสองสามประการ เราได้รวบรวมเคล็ดลับ 7 ประการในการช่วยให้โฆษณาเพื่อสุขภาพของคุณโดดเด่นและสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ

จากข้อมูลเชิงลึกจากสื่อโฆษณาแบบภาพนิ่งของ Amazon DSP และองค์ประกอบด้านดีไซน์ที่ใช้งานอยู่ในสหรัฐอเมริกา ทาง Amazon Ads ได้พัฒนาเคล็ดลับเพื่อช่วยนักการตลาดสร้างโฆษณาเพื่อสุขภาพที่แสดงสินค้าของตน และทำให้โฆษณาเหล่านี้เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย หากต้องการตรวจสอบว่าคำแนะนำเหล่านี้เกี่ยวข้องกับหมวดหมู่สินค้าใด โปรดดูรายการเซ็กเมนต์กลุ่มเป้าหมายที่ด้านล่างของหน้า ตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลัก (KPI) สำหรับเคล็ดลับเหล่านี้ประกอบด้วยอัตราการคลิกผ่าน (CTR) โดยเฉลี่ย อัตราการดูหน้ารายละเอียด (DPVR) อัตราการซื้อ (PR) และผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) ซึ่งเป็นเมทริกซ์ที่สำคัญในการช่วยให้โฆษณาสร้างสรรค์สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย นี่เป็นวิธีที่การใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อเลือกภาพและข้อความสามารถช่วยให้แบรนด์สร้างแคมเปญการตลาดของแบรนด์ ซึ่งนำเสนอสินค้าเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีจะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายของตน

สำรวจตัวอย่างโฆษณาสินค้าเพื่อสุขภาพ

นี่คือตัวอย่างหน้าตาของโฆษณาสินค้าเพื่อสุขภาพที่ปรับให้เหมาะสมแล้ว เรายังมีเคล็ดลับ 7 ประการที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นใช้งาน และยังมีข้อมูลและเคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การโฆษณาแบบดิสเพลย์อีกด้วย

ตัวอย่างโฆษณาสินค้าเพื่อสุขภาพที่แสดงให้เห็นถึงวิธีการนำคำแนะนำสำหรับ CTR ไปใช้

เคล็ดลับในการดำเนินการสำหรับแคมเปญที่ขับเคลื่อนด้วย CTR

ตัวอย่างโฆษณาสินค้าเพื่อสุขภาพที่แสดงให้เห็นถึงวิธีการนำคำแนะนำสำหรับ DPVR ไปใช้

เคล็ดลับในการดำเนินการสำหรับแคมเปญที่ขับเคลื่อนด้วย DPVR

ตัวอย่างโฆษณาสินค้าเพื่อสุขภาพที่แสดงให้เห็นถึงวิธีการนำคำแนะนำสำหรับ PR/ROAS ไปใช้

เคล็ดลับในการดำเนินการสำหรับแคมเปญที่ขับเคลื่อนด้วย PR/ROAS

พิจารณาเคล็ดลับเจ็ดประการเหล่านี้เพื่อปรับปรุงโฆษณาสินค้าเพื่อสุขภาพของคุณ

กราฟแสดง CTR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 10%

ชิ้นงานโฆษณาที่มีคำไม่เกิน 10 คำมี CTR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 10%

กราฟแสดง DPVR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 11%

ชิ้นงานโฆษณาที่มีคำไม่เกิน 10 คำมี DPVR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 11%

1. พยายามให้กระชับ

ถึงแม้ว่าคุณอาจจะอยากอธิบายสรรพคุณของสินค้าของคุณมากแค่ไหน ขอให้พยายามอย่าใช้คำมากกว่า 10 คำในโฆษณาของคุณ ชิ้นงานโฆษณาที่มี 10 คำหรือน้อยกว่านั้นมี CTR เฉลี่ยสูงกว่าชิ้นงานโฆษณาที่มีคำ 19 คำขึ้นไปอยู่ 10%2 นอกจากนี้ ชิ้นงานโฆษณาที่มีจำนวนคำน้อยยังมี DPVR เฉลี่ยสูงกว่าชิ้นงานโฆษณาที่มีจำนวนคำสูงถึง 11%3 โปรดจำไว้ว่านี่นับรวมคำทั้งหมดในโฆษณา ตั้งแต่ข้อความไปจนถึง CTA และไปจนถึงข้อสงวนสิทธิ์ ซึ่งทั้งหมดนี้นับเป็นจำนวนคำทั้งหมดของคุณ

2. พิจารณาการเลือกใช้คำของคุณ

คำเพียงคำเดียวที่ช่วยเพิ่ม KPI ได้ทั้งหมดคือคำว่าอะไร “รู้สึก” ชิ้นงานโฆษณาที่มีคำว่า “รู้สึก” มี CTR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 14% DPVR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 50% และ PR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 45%4 ในทางตรงกันข้าม คำที่ควรหลีกเลี่ยงคือคำว่า ‘ใหม่’ โฆษณาเพื่อสุขภาพที่มีคำว่า ‘ใหม่’ มี DPVR ลดลงโดยเฉลี่ย 11%5 โฆษณาที่มุ่งเน้นไปที่ความรู้สึกของลูกค้าหลังใช้ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าโฆษณาที่ระบุไว้ว่าสินค้าเป็นของใหม่

กราฟแสดง DPVR ลงลดโดยเฉลี่ย 11%

โฆษณาที่มีคำว่า ‘ใหม่’ มี DPVR ลดลงโดยเฉลี่ย 11%

สีกราฟสำหรับ CTR: สีส้ม

CTR

สีของกราฟสำหรับ DPVR: สีฟ้าอ่อน

DPVR

สีกราฟสำหรับ PR: สีเขียวอมน้ำเงิน

PR

กราฟแสดงการเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยของ CTR (14%) DPVR (50%) และ PR (45%)

ชิ้นงานโฆษณาที่มีคำว่า “รู้สึก” มี CTR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 14% DPVR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 50% และ PR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 45%

3. ให้ส่วนลดอย่างเหมาะสม

การจะใช้ข้อความส่วนลดในโฆษณาสินค้าเพื่อสุขภาพหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ KPI หลักของคุณ การเพิ่มข้อความส่วนลด เช่น ‘ประหยัด XX%’ ทำให้มี DPVR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 16% และ PR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 20%6 อย่างไรก็ตามชิ้นงานโฆษณาที่มีส่วนลดมีการลดลงของ CTR โดยเฉลี่ย 27%7 ดังนั้น หากเป้าหมายของคุณคือการเพิ่มการมีส่วนร่วมในการคลิกผ่านบนโฆษณา อาจจะเป็นเรื่องที่ดีในการไม่พูดถึงส่วนลดเลย

สีกราฟสำหรับ CTR: สีส้ม

CTR

สีของกราฟสำหรับ DPVR: สีฟ้าอ่อน

DPVR

สีกราฟสำหรับ PR: สีเขียวอมน้ำเงิน

PR

กราฟแสดงการลดลงโดยเฉลี่ยของ CTR (27%) และการเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยของ DPVR (16%) และ PR (20%)

ชิ้นงานโฆษณาที่มีการส่งข้อความส่วนลดมี CTR ลดลงโดยเฉลี่ย 27% และ DPVR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 16% และ PR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 20%

4. มุ่งเน้นไปที่สินค้า

พยายามอย่าใส่องค์ประกอบลงไปในภาพโฆษณาของคุณมากเกินไป โฆษณาที่มีออบเจกต์ห้ารายการหรือน้อยกว่านั้นจะมี DPVR สูงกว่าโฆษณาที่มีออบเจกต์เก้ารายการหรือสูงกว่าโดยเฉลี่ย 12%8 ออบเจกต์หรือส่วนประกอบเหล่านั้นไม่ได้จำกัดเฉพาะสินค้าภายในรูปภาพโฆษณาเท่านั้น นอกจากนี้ยังรวมไปถึงพื้นหลัง โลโก้ ข้อความ หรือสิ่งอื่นที่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าเป็นองค์ประกอบที่แยกออกมาได้ตามสี โครงร่าง หรือรูปทรง

กราฟแสดง DPVR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 12%

ชิ้นงานโฆษณาที่มีออบเจกต์ไม่เกิน 5 ชิ้นมี DPVR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 12%

กราฟแสดง PR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 13%

ชิ้นงานโฆษณาที่มีภาพซับซ้อนต่ำมี PR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 13%

5. ให้ดูง่ายเข้าไว้

นอกจากจำนวนคำและออบเจกต์ที่น้อยลงแล้ว วิธีนี้ยังช่วยให้ภาพในโฆษณาสินค้าเพื่อสุขภาพเข้าใจง่ายขึ้นอีกด้วย ใช้ภาพที่มีความซับซ้อนต่ำ หมายถึงลดการใช้ตัวเลขและการใช้สีหรือพื้นผิวที่ซับซ้อนมากเกินไป คุณสามารถทำได้โดยหลีกเลี่ยงการใช้ภาพไลฟ์สไตล์ การใช้พื้นหลังสีทึบ และจำกัดจำนวนสีและขนาดของฟอนต์ ชิ้นงานโฆษณาที่มีความซับซ้อนของภาพต่ำมี PR เฉลี่ยที่สูงกว่าโฆษณาที่มีความซับซ้อนของภาพสูงถึง 13%9

6. พิจารณาการปรับขนาดข้อความ CTA

หากคุณต้องการนำคำกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการ (CTA) มาใส่ไว้ในโฆษณาของคุณ ให้วางไว้ในด้านที่เล็กกว่า ความสูงของข้อความ CTA ไม่ควรเกิน 10% ของความสูงของโฆษณาโดยรวมในรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าและรูปแบบอื่น ๆ ที่มีความสูงมากกว่า โฆษณาที่มีข้อความ CTA ขนาดเล็กกว่า (2% ของความสูงของโฆษณาทั้งหมด) มี CTR เฉลี่ยที่สูงกว่าข้อความ CTA ที่ใหญ่กว่า 10% ซึ่งสูงถึง 11% ของความสูงของโฆษณา10

กราฟแสดง CTR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 10%

ชิ้นงานโฆษณาที่ข้อความ CTA มีความสูงน้อยกว่ามี CTR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 10%

กราฟแสดง CTR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 9%

ชิ้นงานโฆษณาที่มีพื้นหลังและฉากหน้าสีอ่อนมี CTR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 9%

กราฟแสดง PR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 12%

ชิ้นงานโฆษณาที่มีพื้นหลังสีอ่อนและฉากหน้าสีเข้มมี PR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 12%

7. ดูแลเรื่องสีและการใช้แสงให้ดี

การใช้พื้นหลังและฉากหน้าสีอ่อนในโฆษณาของคุณมีแนวโน้มที่จะดึงดูดลูกค้าได้มากกว่า คำแนะนำนี้ใช้ได้กับส่วนประกอบทั้งหมดของโฆษณา รวมทั้งข้อความและโลโก้ ชิ้นงานโฆษณาที่มีพื้นหลังสว่างและฉากหน้าที่มืดมี PR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 12%11 นอกจากนี้ การมีพื้นหลังที่มีสีสว่างกว่าและฉากหน้าที่สีอ่อนกว่าทำให้มี CTR เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 9%12

วิธีที่ Amazon Ads จัดหาข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้

ข้อมูลเชิงลึกของหมวดหมู่ที่ใช้อยู่นี้เกิดจากการรวบรวมองค์ประกอบดีไซน์จากไฟล์ภาพของชิ้นงานโฆษณา 22,000 ภาพในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2018 ถึง 2021 ชิ้นงานโฆษณาถูกแยกออกเป็นแนวตั้งตามกลุ่มเป้าหมาย จากนั้นแบบจำลองทางสถิติและแมชชีนเลิร์นนิ่งจะพิจารณาผลกระทบของดีไซน์องค์ประกอบที่มีต่อการรับรู้ การพิจารณาซื้อ และ KPI การซื้อ ประสิทธิภาพของชิ้นงานโฆษณาได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อขจัดผลกระทบที่ทำให้เกิดความสับสน เช่น ตำแหน่งโฆษณาและความถี่ในการแสดงโฆษณา

เซ็กเมนต์กลุ่มเป้าหมายที่รวมอยู่ในการวิเคราะห์: ยาบรรเทาปวดตามร้านขายยาทั่วไป, วิตามิน/อาหารเสริม/สมุนไพร, อาหารเพิ่มพลังงาน/เครื่องดื่ม, สุขภาพ/ความงาม/อนามัยส่วนบุคคล, การออกกำลังกายและฟิตเนส, ความบันเทิงในฟิตเนส/โยคะ, อุปกรณ์ปฐมพยาบาล, การนอน/การกรน, หนังสือเกี่ยวกับสุขภาพ/จิตใจ/ร่างกาย

เรียนรู้เพิ่มเติม

ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพชิ้นงานโฆษณาของคุณใช่ไหม สำรวจวิธีอื่น ๆ ในการปรับปรุงแคมเปญโฆษณาสำหรับสินค้าหมวดหมู่อื่น ๆ ที่หลากหลาย รวมถึงสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตและของชำ และการตลาดสำหรับเครื่องดื่ม

1 “Healthcare Consumers Path to Purchase,” Kantar & Amazon Ads, สหรัฐอเมริกา, กรกฎาคม 2021
2-12 ข้อมูลภายใน Amazon, กรกฎาคม 2021, สหรัฐอเมริกา