CPM คืออะไร

การโฆษณาแบบตั้งโปรแกรม คือการซื้อและขายพื้นที่โฆษณาดิจิทัลแบบอัตโนมัติ ทั้งโฆษณาดิสเพลย์และโฆษณาวิดีโอ คุณสามารถใช้แพลตฟอร์มด้านอุปสงค์ (DSP) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ซื้อและจัดการพื้นที่โฆษณาดิจิทัลแบบอัตโนมัติจากผู้เผยแพร่หลายราย แพลตฟอร์มด้านอุปทาน (SSP) หรือแพลตฟอร์มด้านการขาย เป็นซอฟต์แวร์ที่ผู้เผยแพร่ใช้ในการขายและจัดการพื้นที่โฆษณาของตนโดยอัตโนมัติ

โฆษณาแบบตั้งโปรแกรมบางประเภทจะคิดเป็นต้นทุนต่อการแสดงผลพันครั้ง (CPM) ซึ่งหมายถึงการคิดค่าใช้จ่ายต่อจำนวนการแสดงผลของโฆษณาหนึ่งพันครั้ง CPM คือรูปแบบการกำหนดราคาที่คุณจ่ายเงินจำนวนหนึ่งสำหรับการแสดงผล 1,000 ครั้ง หรือตามจำนวนครั้งที่โฆษณาของคุณปรากฏขึ้น CPM เป็นที่นิยมในผู้เผยแพร่โฆษณาขนาดใหญ่ ซึ่งผู้ลงโฆษณาจะจ่ายราคาที่กำหนดตามจำนวนครั้งที่โฆษณาถูกเห็นเป็นรายเดือนหรือรายไตรมาส

CPM เป็นหนึ่งในหลากหลายรูปแบบของการกำหนดราคาในการโฆษณาดิจิทัล เนื่องจากการโฆษณาแบบดิจิทัลสามารถวัดได้ด้วย ตัววัดการตลาดที่หลากหลาย โดยสามารถดูจากความถี่ที่โฆษณาปรากฏ การคลิก การนำไปสู่การขาย และอื่น ๆ โดยสามารถปรับวิธีการกำหนดราคาให้เหมาะสมกับจุดประสงค์ของโฆษณา วิธีการกำหนดราคาบางรูปแบบอาจเหมาะสมกับแคมเปญการโฆษณาบางรูปแบบเท่านั้น CPM มักจะใช้สำหรับผู้โฆษณาที่ต้องการเน้นสร้าง การรับรู้ของแบรนด์ หรือต้องการส่งข้อความบางรูปแบบ เพราะการกำหนดราคาประเภทนี้จะมุ่งเน้นไปที่การแสดงผลมากกว่าเมื่อเทียบกับโฆษณาแบบต้นทุนต่อคลิก

CPM เป็นเพียงหนึ่งในหลากหลายรูปแบบการกำหนดราคาการโฆษณาดิจิทัล ในขณะที่ CPM เป็นค่าใช้จ่ายต่อจำนวนการแสดงผลของโฆษณาพันครั้ง การกำหนดราคาอีกประเภทหนึ่งคือแบบต้นทุนต่อคลิก (CPC) ซึ่งผู้โฆษณาจะต้องจ่ายเงินทุกครั้งที่ผู้บริโภคคลิกโฆษณา ส่วน CPA จะตรงข้ามกับ CPM โดย CPA จะหมายถึงราคาต่อหนึ่งการสั่งซื้อ ซึ่งผู้โฆษณาจะจ่ายเฉพาะเมื่อผู้บริโภคทำการซื้อหลังจากคลิกที่โฆษณาเท่านั้น

โฆษณาดิสเพลย์มีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไป แต่สิ่งที่ทำให้การโฆษณารูปแบบนี้เป็นหนึ่งในวิธีการโฆษณาที่คุ้มค่ามากที่สุดคือความยืดหยุ่น ในการโฆษณาแบบดั้งเดิมบางรูปแบบ แบรนด์จะไม่สามารถเปลี่ยนรูปภาพ ข้อความกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการ (CTA) หรือข้อความอื่น ๆ ได้หลังจากโฆษณาเริ่มทำงานแล้ว นั่นหมายความว่าหากโฆษณาไม่มีประสิทธิภาพ ค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินการก็อาจสูงขึ้น เนื่องจาก โฆษณาดิสเพลย์ มีความยืดหยุ่นและใช้การคิดราคาแบบ CPM ทำให้ผู้โฆษณาสามารถเปลี่ยนทิศทางระหว่างดำเนินแคมเปญและช่วยให้แบรนด์มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อปรับแคมเปญให้เหมาะสมและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งบประมาณ

โฆษณาดิสเพลย์ ของ Amazon ใช้โครงสร้างการกำหนดราคาแบบต้นทุนต่อจำนวนการแสดงผลของโฆษณาที่มองเห็นได้หนึ่งพันครั้ง (vCPM) หมายความว่าผู้โฆษณาจะถูกเรียกเก็บเงินเมื่อผู้ซื้อเห็นโฆษณา โฆษณาดิสเพลย์นิยามการเห็นโฆษณาโดยยึดตาม MRC คือ อย่างน้อย 50% ของโฆษณาควรอยู่ในหน้าจอของนักช้อปเป็นเวลาอย่างน้อย 1 วินาทีเพื่อนับเป็นจำนวนการแสดงผลของโฆษณานั้นที่มีการมองเห็น

โฆษณาเสียง ของ Amazon จะขายแบบ CPM แคมเปญโฆษณาเสียงเหล่านี้จะวัดตามจำนวนครั้งที่แสดงผล ความถี่ในการแสดงผลเฉลี่ย การเข้าถึงแคมเปญสะสม การเริ่มเล่นโฆษณา การฟังจนจบ ต้นทุนต่อการฟังจนจบ (eCPAC) และอีกมากมาย โฆษณาดิสเพลย์ของ Amazon DSP ก็ใช้โครงสร้างราคาแบบ CPM เช่นกัน