แบรนด์ CPG ยกระดับเกมในระดับล่างของกรวยการตลาดบน Amazon Ads ได้อย่างไร

ในการทำงานร่วมกับทีม Amazon Ads แบรนด์ได้ตั้งค่าการทดสอบโฆษณา เพื่อทำความเข้าใจว่าการใช้ประโยชน์จากโฆษณาดิสเพลย์ eCommerce จะส่งผลต่อประสิทธิภาพได้อย่างไร

ในการเริ่มต้น ทีมงานได้ทำการทดสอบแยกสำหรับสินค้าของตนตัวหนึ่งในสเปน การทดสอบนี้มีการใช้รูปแบบโฆษณา 3 ประเภท: แบนเนอร์แบบคงที่พร้อมรายละเอียดส่วนลด โฆษณาดิสเพลย์ eCommerce แบบรูปภาพที่กำหนดเอง และโฆษณาดิสเพลย์ eCommerce พร้อมโลโก้และหัวเรื่องที่ได้รับการปรับแต่ง

ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าโฆษณาดิสเพลย์ eCommerce พร้อมโลโก้และหัวเรื่องมีประสิทธิภาพเหนือกว่าโฆษณาประเภทอื่น ส่งผลให้ผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) สูงขึ้น 356% เมื่อเทียบกับเวอร์ชันแบนเนอร์คงที่²

ผู้โฆษณาจำลองการทดสอบแบบเดียวกันนี้กับสินค้าของตนชิ้นหนึ่งในฝรั่งเศส และในทำนองเดียวกันก็พบว่าโฆษณาดิสเพลย์ eCommerce พร้อมโลโก้และหัวเรื่องที่ปรับแต่งให้ ROAS สูงขึ้น 200%³ ในเยอรมนี แบรนด์สังเกตเห็น ROAS เพิ่มขึ้น 182% ในช่วงสัปดาห์ Black Friday เมื่อเปรียบเทียบทั้งโฆษณา eCommerce ที่สร้างขึ้นแบบอัตโนมัติและแบบกำหนดเองกับแบนเนอร์แบบคงที่⁴

ด้วยผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจจากการทดสอบโฆษณาครั้งแรกนี้ หลายแบรนด์จึงได้ทดสอบโฆษณาดิสเพลย์ eCommerce ในพื้นที่อื่นๆ ทั่วสหภาพยุโรปกับสินค้า CPG อื่น ๆ บางรายการ

ผลลัพธ์จากการทดสอบเพิ่มเติมเหล่านี้ยังคงบ่งชี้ว่าโฆษณาดิสเพลย์ eCommerce ช่วยขับเคลื่อนประสิทธิภาพในระดับล่างของกรวยการตลาดได้อย่างแข็งแกร่งสำหรับแบรนด์ CPG หลายแบรนด์เมื่อเทียบกับแบนเนอร์แบบคงที่ ในอิตาลี อัตราการซื้อเพิ่มขึ้น 341% สำหรับแบรนด์ต่าง ๆ เมื่อเปรียบเทียบแบนเนอร์โฆษณาดิสเพลย์ eCommerce ที่สร้างแบบอัตโนมัติโฆษณาแบบคงที่⁵ ในทำนองเดียวกัน ในสหราชอาณาจักร พวกเขาพบว่ารูปแบบโฆษณาดิสเพลย์ eCommerce แบบปรับเปลี่ยนได้พร้อมเวอร์ชันโลโก้ + หัวเรื่องที่สร้างแบบอัตโนมัติมีประสิทธิภาพเหนือกว่าโฆษณาแบบคงที่ 130%⁶ การวัดอัตราการซื้อและ ROAS วัดโดยแบ่งทราฟฟิกเท่า ๆ กันระหว่างแบนเนอร์โฆษณาแบบคงที่กับ eCommerce ภายในแคมเปญโฆษณา ผลลัพธ์เหล่านี้สะท้อนค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักตามยอดรวมจำนวนการเห็นโฆษณาต่อประเภทชิ้นงานโฆษณา