สปอตไลท์พันธมิตร: Sellics แบ่งปันกลยุทธ์ Amazon Ads ของตน

9 ธันวาคม 2020

Sellics เป็นซอฟต์แวร์ดูแลการเติบโตของกิจการค้าปลีกชั้นนำโดยมีลูกค้าอย่าง Bosch และ Brita จำหน่ายเครื่องมือแบบบูรณาการให้กับผู้ขายและผู้ค้าบน Amazon ทั้งสำหรับการค้าปลีกและการโฆษณาบน Amazon ที่จะช่วยให้เอเจนซี่และแบรนด์สามารถปลดล็อคศักยภาพได้อย่างเต็มที่ ในฐานะผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Franz Jordan ได้นำทีมในการใช้ประโยชน์จากโซลูชันโฆษณาอัตโนมัติด้วย AI ของ Sellics เพื่อให้แบรนด์และตัวแทนโฆษณาสามารถขยายการเติบโตและความสำเร็จของการค้าปลีกได้

ที่นี่เราได้พูดคุยกับ Franz เพื่อสอบถามที่มาของ Sellics และวิธีใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์โฆษณา sponsored "ยิ่งรวมกันยิ่งได้ประโยชน์" เพื่อช่วยเพิ่มความสำเร็จของลูกค้าด้วย Amazon Ads

เล่าที่มาที่ไปของ Sellics และสถานการณ์ปัจจุบันให้เราฟังหน่อย

เราก่อตั้ง Sellics ในปี 2014 ด้วยแนวคิดง่าย ๆ เราเข้าใจด้วยสัญชาตญาณว่าทุกที่ที่มีการค้นหา จะต้องมี SEO เราต้องการที่จะพัฒนาสินค้าที่จะช่วยให้แบรนด์ที่ขายบน Amazon ได้รับการมองเห็นมากขึ้นและในที่สุดก็จะทำให้ธุรกิจของพวกเขาเติบโตขึ้น
แต่ตอนที่เราทำการวิจัยตลาด เราไม่เห็นใครอะไรแบบนั้นเลย ในจุดนั้น เรารู้ว่าเรามีโอกาสที่จะมอบสิ่งที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับแบรนด์เหล่านี้ ด้วยเงินทุนที่แค่พอสำหรับจ่ายค่าเช่าสามเดือน เราตัดสินใจว่าเราจะลองทำสิ่งนี้ดูและเราตระหนักอย่างรวดเร็วว่าเราคิดถูกแล้ว เรามาไกลจากจุดนั้นมาก แต่สิ่งที่ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยก็คือความมุ่งมั่นของเราที่จะคงความล้ำยุคล้ำสมัยอยู่เสมอ

ในทางหนึ่ง เราได้พัฒนาควบคู่ไปกับ Amazon และ Amazon Ads ตอนนี้เราเป็นผู้ให้บริการแบบครบวงจรในการสร้างความสำเร็จด้วยการโฆษณา การรายงานทางธุรกิจ และการวิเคราะห์ โดยมี SEO เป็นศูนย์กลาง เราภูมิใจที่ได้ให้บริการผู้ขาย ผู้จำหน่าย และตัวแทนโฆษณาทั่วโลก ด้วยซอฟต์แวร์โซลูชันที่ปรับให้สอดรับกับความต้องการของพวกเขา

การเริ่มต้นใช้งาน Sellics เป็นเรื่องง่าย ๆ: เราต้อนรับผู้ใช้ใหม่ด้วยการทดลองใช้และการตรวจสอบบัญชีโดยไม่มีข้อผูกมัด เราให้บริการแบบบริการตนเองมากมาย แต่เราก็มีทีมบริการลูกค้าประจำที่หน้างานด้วย จุดมุ่งหมายของเราคือทำให้การสร้างความสำเร็จในร้านค้าของ Amazon เป็นเรื่องง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับลูกค้าของเรา

ที่ AdCon ในปีนี้ คุณได้พูดถึงวิธีการใช้โฆษณาหลาย ๆ แบบควบคู่กันไป หรือเรียกอีกอย่างว่า โฆษณาเหล่านั้น “อยู่ด้วยกันแล้วทำงานได้ดีกว่า” อย่างไร บอกเราเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการโฆษณาของ Sellics ด้วย Sponsored Brands และ Sponsored Display

โอกาสในการโฆษณากับ Amazon กำลังเติบโต และนั่นคือสิ่งที่ดีสำหรับ vendor และผู้ขาย โฆษณาแต่ละประเภทมีบทบาทที่ต่างกันไป แม้ว่า Sponsored Products จะเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม แต่มันก็เป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของกลยุทธ์แบบองค์รวม เหตุผลเดียวกับที่คุณไม่สามารถมีตำแหน่งฟอร์เวิร์ดห้าคนในทีมบาสเกตบอลทีมเดียว: การดั๊งก์เป็นสิ่งที่ดี แต่คุณก็ต้องการตำแหน่งที่ส่งบอลให้คุณก่อนเช่นกัน

โฆษณาSponsored Brands และโฆษณา Sponsored Display ควรเป็นรูปแบบการโฆษณาบน Amazon ที่ควรทำอย่างยิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกลยุทธ์การตลาดแบบ full-funnel คุณสามารถทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย Sponsored Brands รวมทั้งรักษาฐานลูกค้าและทำให้แบรนด์เป็นที่พูดถึงด้วย Sponsored Display

ผมรู้ว่ารูปแบบใหม่อาจดูน่ากลัว แต่การปล่อยให้หน้าที่การเพิ่มประสิทธิภาพประจำวันทำให้คุณไม่มีเวลาทุ่มเทให้แบรนด์ นั่นอาจเป็นความผิดพลาดได้ ลองใช้ซอฟต์แวร์ที่สามารถทำการเพิ่มประสิทธิภาพแทนคุณดูสิ

หนึ่งในลูกค้าของเราซึ่งเป็นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่งวุ่นวายอยู่กับการจัดการโฆษณาประมาณ 200 กลุ่มโฆษณาในแต่ละประเทศที่พวกเขาทำการโฆษณา แค่ทำให้ทันก็ยากแล้ว อย่าพูดถึงเรื่องทำให้ดีเลย หนึ่งเดือนหลังใช้ผลิตภัณฑ์โฆษณาของ Sellics พวกเขาสามารถเพิ่มคีย์เวิร์ดได้มากกว่า 4,500 คำด้วยระบบนำร่องอัตโนมัติของเราและสร้างให้เกิดประสิทธิภาพที่ทำให้ออเดอร์สั่งซื้อของพวกเขาเพิ่มขึ้นสามเท่าและลดค่าใช้จ่ายการโฆษณาและยอดขาย (ACOS) ลงได้ถึง 20%

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด พวกเขาได้ประหยัดเวลาไปมากและสามารถใช้เวลาเหล่านั้นทุ่มเทให้กับธุรกิจของพวกเขาได้ เมื่อคุณมีกลยุทธ์ที่ทำกำไรที่ไว้ใจได้อยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลเลยที่จะไม่เพิ่มงบประมาณในการใช้กลยุทธ์แบบเต็ม funnel เต็มรูปแบบ

quoteUpเมื่อคุณมีกลยุทธ์ที่ทำกำไรที่ไว้ใจได้อยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลเลยที่จะไม่เพิ่มงบประมาณในการใช้กลยุทธ์แบบเต็ม funnel เต็มรูปแบบquoteDown
– แฟรนซ์ จอร์แดน ซีอีโอของ Sellics

คุณมีคำแนะนำอะไรสาหรับผู้โฆษณาที่เพิ่งเริ่มใช้คีย์เวิร์ดหรือการกำหนดเป้าหมายสินค้าใน Sponsored Brands และ/หรือ Sponsored Display

อย่างแรก ผมขอแนะนำให้กำหนดเป้าหมายของคุณและใช้เป้าหมายนี้กำหนดกลยุทธ์การระบุเป้าหมายของคุณ
สำหรับโฆษณาทั้งสองรูปแบบ คุณมักจะได้ฐานลูกค้าและแคมเปญที่มุ่งเน้นการขาย แต่สำหรับ Sponsored Brands คุณอาจต้องการเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์เข้าไป และสำหรับ Sponsored Display คุณอาจพิจารณาทำการทำตลาดซ้ำ การเพิ่มการรับรู้ให้สินค้า หรือสร้างความภักดีต่อแบรนด์

สำหรับการกำหนดเป้าหมายคีย์เวิร์ด ผมต้องขอเน้นย้ำความสำคัญของการศึกษาคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมและหมั่นครวจสอบอยู่เสมอว่าคำไหนมีประสิทธิภาพสูงสุด ในด้านของสิ่งที่ต้องระวัง ผมขอแนะนำให้ไม่ควรเลิกใช้คีย์เวิร์ดของแบรนด์และมีใจที่เปิดกว้าง

ตัวอย่างเช่น สำหรับแคมเปญสร้างการรับรู้ Sponsored Brands คุณจะต้องกำหนดเป้าหมายคีย์เวิร์ดระดับหมวดหมู่ทั่วไปมากขึ้น รวมถึงคำค้นหาของแบรนด์ ในกรณีนี้ การกำหนดเป้าหมายที่กว้างขึ้นจะได้ผลดีเพราะจำนวนการเห็นโฆษณาจะเป็นหนึ่งใน KPI หลักของคุณ

หากคุณกำลังทำแคมเปญการขาย Sponsored Display ขอแนะนำให้กำหนดเป้าหมายหมายเลขระบุมาตรฐานของ Amazon (ASIN) ของคุณกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ด้วยกัน ขณะเดียวกันก็กำหนดเป้าหมายสินค้าของแบรนด์อื่นที่คล้ายกันด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณสามารถติดป้ายดีลลงบนสินค้าของคุณเอง เพราะทั้งสองกลยุทธ์สามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้

ในทั้งสองกรณีนี้ คุณจะต้องเลือกตำแหน่งโดยใช้ตัวปรับเปลี่ยนตำแหน่งสำหรับการประมูลเพื่อเพิ่มโอกาสให้โฆษณาของคุณปรากฏในตำแหน่งโฆษณาหน้ารายละเอียดสินค้าและด้านบนของผลการซื้อตามลำดับ

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของคุณในการทำแคมเปญและการเพิ่มประสิทธิภาพ Sponsored Brands และ/หรือ Sponsored Display คืออะไร

มีองค์ประกอบสำคัญบางประการที่ควรคำนึงถึงเมื่อจัดทำแคมเปญและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญของคุณ

1. ขั้นแรก ให้จัดทำโครงสร้างแคมเปญที่สามารถทำการเพิ่มประสิทธิภาพได้ตลอดไป

นั่นหมายความว่า จะต้องคอยมองหาโอกาสในการกำหนดเป้าหมายใหม่ ๆ และเลิกใช้เป้าหมายเดิมที่ไม่ได้ผลแล้ว หลักการที่นี่คือการย้ายจากการระบุเป้าหมายในวงกว้างไปสู่การระบุเป้าหมายที่ชัดเจนและจากนั้นก็ทำการเพิ่มการระบุเป้าหมายทั้งสองรูปแบบ การทำเช่นนี้ คุณควรเริ่มต้นด้วยการใช้แคมเปญ Sponsored Products อัตโนมัติในการสร้างเครือข่ายให้กว้างขวาง

จากนั้นคุณจะต้องระบุ ASINs และคีย์เวิร์ดที่มีอัตราการคอนเวอร์ชันดีที่สุด และเพิ่มลงพวกมันลงในแคมเปญ Sponsored Brands และแคมเปญคู่มือ Sponsored Display ที่กำหนดเอง ในเวลาเดียวกัน คุณต้องเพิ่มส่วนที่ประสิทธิภาพต่ำเข้าไปใน “เป้าหมายเชิงลบ” เพื่อลดความสิ้นเปลือง

เมื่อคุณสร้างแคมเปญใหม่จากเป้าหมายพื้นฐานแล้ว คุณก็จะเพิ่มประสิทธิภาพแต่ละแคมเปญต่อไปตามประสิทธิภาพการทำงานได้ การทำขั้นตอนนี้ซ้ำจะช่วยกลั่นกรองแคมเปญ (ประสิทธิภาพสูง) ของคุณมากขึ้น

ประโยชน์ของการตั้งค่าแบบนี้คือ คุณจะได้ไม่ต้องเดาว่าสิ่งใดจะได้ผล ความจริงจะเป็นการดีกว่าถ้าคอยจับตาดูและให้ประสิทธิภาพการทำงานคอยบอกคุณว่าต้องทำอะไร

quoteUpแคมเปญโฆษณาของคุณเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญที่สามารถและควรบอกกลยุทธ์ของคุณ ไม่เพียงแต่กลยุทธ์โฆษณาของคุณบน Amazon เท่านั้น แต่กลยุทธ์การตลาดที่ดีขึ้นของคุณด้วยquoteDown
– แฟรนซ์ จอร์แดน ซีอีโอของ Sellics

2. แคมเปญโฆษณาของคุณเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญที่สามารถและควรบอกกลยุทธ์ของคุณ ไม่เพียงแต่กลยุทธ์โฆษณาของคุณบน Amazon เท่านั้น แต่กลยุทธ์การตลาดที่ดีขึ้นของคุณด้วย

เมทริกซ์ลูกค้าใหม่ของแบรนด์ที่แบรนด์ใช้กับ Sponsored Display และ Sponsored Brands ทำให้เห็นโอกาสในการเรียนรู้ครั้งสำคัญ ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเรียนรู้ว่าสินค้าใดสร้างลูกค้ารายใหม่ได้บ่อย ๆ คุณควรพิจารณาสร้างแคมเปญการดึงดูดลูกค้าที่เน้นย้ำไปที่ ASINS เหล่านั้น

ในมุมที่กว้างขึ้น ให้คุณลองใช้ตัววัดในแต่ละแคมเปญหากคุณทำได้ ในนั้นจะมีข้อมูลที่มีค่ามากมาย การประเมินสถานะบัญชีของคุณจะช่วยให้คุณทราบว่าคุณสามารถสร้างประสิทธิภาพและวิธีการเรียนรู้จากความผิดพลาดของคุณได้ การระบุและกำจัดความสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายไปกับคีย์เวิร์ดที่ไม่สร้างการคอนเวอร์ชันเป็นตัวอย่างของสิ่งที่ง่ายที่สุดที่คุณจะทำได้ในการเพิ่มผลกำไรของคุณในตอนนี้

3. สุดท้าย หากคุณไม่มีเวลาที่จะทดลองสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเอง เราพร้อมที่จะช่วยเหลือคุณ

เรามีเครื่องมือ (ฟรี) มากมายที่พร้อมใช้งานรวมทั้ง Sellics Grader และ Sellics Benchmarker สำหรับ Amazon PPC ที่สามารถบอกคุณได้ว่าคุณอยู่ในจุดใดตอนนี้ พร้อมเคล็ดลับที่เป็นรูปธรรมในการช่วยคุณปรับปรุง

อะไรคือสามเคล็ดลับสำหรับวิธีการ “อยู่ด้วยกันแล้วทำงานได้ดีกว่า” ที่คุณต้องการให้ผู้อ่านนำไปใช้งาน

1. สร้างเป้าหมายและ KPI สำหรับแต่ละแคมเปญ

2. จับตามองการวิเคราะห์ที่คุณสามารถเรียนรู้ได้อย่างใกล้ชิด

3. ใช้การจัดทำแคมเปญเพื่อทำการศึกษาเป้าหมายและการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับลูกค้าของคุณ