ความเร็วของเสียง: วิธีที่แบรนด์สามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่และลูกค้าที่มีอยู่

17 พฤศจิกายน 2021 | โดย Jareen Imam ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายเนื้อหาและกองบรรณาธิการ

หูฟังมักจะเป็นของคู่ใจผู้ใช้สำหรับทั้งการทำงานและการเล่น ไม่วา่จะเป็นการฟังอัลบั้มใหม่ การสตรีมพอดแคสต์ การออกกำลังกายในยิม หรือการทำงานในออฟฟิศ อุตสาหกรรมหูฟังกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วดั่งความเร็วเสียง เมื่อกลุ่มเป้าหมายสัมผัสกับเสียงเพลงในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น

ภาพรวมของหมวดหมู่หูฟังเติบโตขั้น 10% ในแต่ละปีทั้งออนไลน์และออฟไลน์ตั้งแต่ปี 2019 ถึง 2020 ตามรายงานปี 2021 จาก Statista1 บน Amazon หมวดหมู่ย่อยทั้ง 4 หมวดหมู่ของหูฟัง ซึ่งประกอบด้วยหูฟังแบบ Over-ear หูฟังแบบ In-ear ชุดหูฟัง และหูฟังเกมมิ่ง มีการเติบโตในแต่ละปีในช่วงเวลาดังกล่าว และถึงแม้ว่าชุดหูฟังและหูฟังเกมมิ่งจะเป็นหมวดหมู่ย่อยที่ค่อนข้างเล็ก แต่ทั้งสองหมวดหมู่นี้กลับเติบโตเร็วกว่าหมวดหมู่อื่น ๆ ตามข้อมูลจากแบบสำรวจโดย Kantar และ Amazon Ads2 ดังนั้นแบรนด์ในหมวดหมู่ย่อยเหล่านี้อาจควรพิจารณากลยุทธ์แบบทุกช่องทางเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ค้นหาข้อมูลและซื้อหูฟัง

การค้นหาข้อมูลทางออนไลน์เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับลูกค้าหลาย ๆ คนที่ต้องการซื้อหูฟัง ลูกค้าหูฟังประมาณ 2 ใน 3 คน หรือที่คิดเป็น 67% รายงานว่า ตนเองทำการค้นหาข้อมูลออนไลน์ก่อนซื้อสินค้า3 จริง ๆ แล้ว ลูกค้าหูฟังออนไลน์ 72% ที่ทำแบบสำรวจไปที่ Amazon ก่อนทำการซื้อสินค้า4 และลูกค้าหูฟังในร้าน 54% รายงานว่า ตนเองไปที่ Amazon ก่อนทำการซื้อสินค้า5 การทำความเข้าใจจุดติดต่อดิจิทัลที่ลูกค้าหูฟังพบเจอในเส้นทางสำหรับซื้อของตนเอง แบรนด์จะสามารถช่วยกลุ่มเป้าหมายค้นพบสินค้าใหม่ ๆ ได้

การทำความเข้าใจรูปแบบการช้อปปิ้งของลูกค้าหูฟัง

เมื่อทำการตัดสินใจเลือกหูฟังที่จะซื้อ ลูกค้าหลาย ๆ คนที่เพิ่มเริ่มกระบวนการช้อปปิ้งของตนเองจะใช้ Amazon ในการรวบรวมข้อมูลสินค้า โดยผู้เข้าร่วม 58% รายงานว่า ตนเองไปที่ Amazon เมื่อเริ่มทำการค้นคว้าในช่วงแรก ๆ6 และลูกค้าหูฟัง Amazon ทั้งหมด 2 ใน 3 คนที่ตอบแบบสำรวจในหมวดหมู่ทั้งหมด หรือที่คิดเป็น 66% ทำการซื้อเมื่อเร็ว ๆ นี้ใน Amazon ก่อนทำการซื้อหูฟังครั้งแรก7 หมวดหมู่อื่น ๆ ที่ผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าหูฟังกำลังเลือกซื้อสินค้าประกอบด้วย PC และแล็ปท็อป เพลง และเสื้อผ้าสำหรับเด็ก8

เมื่อลูกค้าจำกัดจำนวนหูฟังที่ตนเองสนใจซื้อ ชื่อแบรนด์ก็จะมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นเมื่อจุดราคาของหูฟังนั้นเพิ่มขึ้น ลูกค้าที่ซื้อหูฟัง 74% ที่มีราคามากกว่า 200 ดอลลาร์สหรัฐบอกว่า ชื่อแบรนด์มีความสำคัญสำหรับตนเอง9

และลูกค้าที่ซื้อหูฟังที่มีราคาต่ำกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐจะทำการซื้อที่เกี่ยวข้องกับหูฟังซ้ำกับแบรนด์ที่แตกต่างกัน ดึงนั้นแบรนด์หูฟังที่ขายสินค้าราคาต่ำกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐจึงควรพิจารณาใช้แนวทางการทำตลาดซ้ำแบบเปิดเสมอกับกลุ่มเป้าหมายที่มีส่วนร่วมในหมวดหมู่หูฟังอยู่แล้ว10 เพราะนี่อาจเป็นโอกาสสำหรับแบรนด์ในการแนะนำตัวเลือกสินค้าที่เกี่ยวข้องสำหรับลูกค้าเหล่านี้

และลูกค้าหูฟังที่เลือกซื้อสินค้าภายในช่วงราคาระดับกลางโดยอยู่ระหว่าง 50 ถึง 150 ดอลลาร์สหรัฐ มีแนวโน้ม 1.5% ที่จะทำการซื้อซ้ำจากแบรนด์เดิมมากกว่าลูกค้าที่ซื้อหูฟังที่มีราคาถูกกว่า11 ดังนั้นผู้โฆษณาหูฟังที่ขายสินค้าในราคาระหว่าง 50 ถึง 150 ดอลลาร์สหรัฐ จึงควรพิจารณาใช้ Sponsored Brands และ Sponsored Products เพื่อช่วยสร้างการรับรู้กับลูกค้าของสินค้าและแบรนด์ที่พวกเขาอาจต้องการ

หมวดหมู่ย่อยของนักช้อปหูฟัง ไม่ว่าจะเป็นหูฟังแบบ In-ear หรือ Over-ear หรือชุดหูฟังและหูฟังเล่นเกม มีรูปแบบการช้อปปิ้งที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น หูฟังแบบ In-ear หรือ Over-ear จำนวน 16.7% โดยเฉลี่ยมีการซื้อซ้ำอย่างน้อย 1 ครั้งในหมวดหมู่หูฟังแบบ In-ear และ Over-ear12 อัตราการซื้อซ้ำจะสูงกว่าลูกค้าชุดหูฟังและหูฟังเกมมิ่ง ดังนั้น ผู้โฆษณาจึงควรพิจารณาเส้นทางการเติบโตที่แตกต่างกันเมื่อมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายหูฟังที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น แบรนด์หูฟังแบบ In-ear และ Over-ear สามารถปรับปรุงคำถามทั่วไปของตนเองเพื่อจัดการกับอัตราการเปลี่ยนแบรนด์ที่สูงในหมวดหมู่หูฟังราคาต่ำกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ผู้โฆษณาชุดหูฟังและหูฟังเกมมิ่งควรสร้างแคมเปญสร้างการรับรู้เพื่อสร้างความภักดีของลูกค้าในระหว่างการซื้อสินค้าซ้ำ

ตอบสนองความต้องการของนักช้อปหูฟังพร้อมกับขับเคลื่อนการเติบโตของแบรนด์

จากผลสำรวจของ Kantar และ Amazon Ads นักช้อปหูฟังหลาย ๆ คนกำลังเลือกดูข้อมูลสินค้าทางออนไลน์ ดังนั้นการใช้โซลูชันการโฆษณาแบบผสม เช่น Sponsored Products, Sponsored Display, Sponsored Brands และโฆษณาวิดีโอ อาจช่วยแบรนด์หูฟังเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับลูกค้าใหม่และลูกค้าที่ซื้อซ้ำได้ จริง ๆ แล้ว ผู้โฆษณาหูฟังที่เพิ่มการแสดงโฆษณาและโฆษณาวิดีโอไปยังแคมเปญ Sponsored Products ของตนเอง เห็นประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับแคมเปญที่ใช้เฉพาะ Sponsored Product ในปี 202013

แบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีส่วนร่วมยังควรพิจารณาทำการโฆษณาใน Twitch และการสมัครใช้งานระดับมีโฆษณาของ Amazon Music เนื่องจากลูกค้าหูฟังมีแนวโน้ม 1.64 เท่าที่จะใช้ Twitch เมื่อเร็ว ๆ นี้ และมีแนวโน้ม 1.51 เท่าที่จะฟังเพลง Amazon Music (เทียบกับประชากรทั่วไปบน Amazon)14 นอกจากนี้ แบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงผู้ที่อาจเป็นลูกค้าควรพิจารณาทำการโฆษณาบนแท็บเล็ต Fire ของ Amazon เป็นพิเศษ เนื่องจากหมวดหมู่ย่อยหูฟังทั้งสี่เกินดัชนีในการใช้งานของแท็บเล็ต Fire และ Fire TV ของ Amazon15

เนื่องจากชีวิตประจำวันของลูกค้าหูฟังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง แบรนด์จึงมีโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ว่าลูกค้าจะเลือกซื้อหูฟังสำหรับทำงาน เล่น หรืออื่น ๆ

1 Statista, สหรัฐอเมริกา, 2021
2-6 การวิจัยเส้นทางสำหรับซื้อหูฟังของ Kantar และ Amazon Ads, สหรัฐอเมริกา, พฤษภาคม 2021
7-8 ข้อมูลภายใน Amazon, สหรัฐอเมริกา, มิถุนายน 2021
9 การวิจัยเส้นทางสำหรับซื้อหูฟังของ Kantar และ Amazon Ads, สหรัฐอเมริกา, พฤษภาคม 2021
10-15 ข้อมูลภายใน Amazon, สหรัฐอเมริกา, มิถุนายน 2021