เหตุใดความยั่งยืนจึงเป็นหัวใจสำคัญของ J&J Consumer Health: "เพราะเป็นสิ่งที่ควรกระทำ"

20 เมษายน 2022 | โดย Matt Miller นักเขียนคำโฆษณาอาวุโส

ในเดือนเมษายน คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติได้ออกรายงานฉบับใหม่เกี่ยวกับภาระงานที่ประเทศต่าง ๆ ต้องเผชิญเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกมากพอที่จะป้องกันผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยความเร่งด่วนนี้ ผู้บริโภคปัจจุบันให้ความใส่ใจในการตัดสินใจซื้อของพวกเขาที่ส่งผลกระทบต่อโลกใบนี้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแหล่งกำเนิด ห่วงโซ่อุปทาน บรรจุภัณฑ์ หรือการรีไซเคิล นักช้อปในปัจจุบันกำลังพยายามที่จะสนับสนุนแบรนด์ที่มุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

จากการศึกษาวิจัยของ Amazon Ads และ Environics Research ปี 2021 พบว่า 83% ของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา, 88% ของผู้บริโภคในยุโรป, 88% ของผู้บริโภคในแคนาดา และ 95% ของผู้บริโภคในเม็กซิโกคิดว่าแบรนด์ควรมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือโลกมากขึ้น ¹ ในสหรัฐอเมริกา 60% ของผู้บริโภคกระตือรือร้นในการแสวงหาแบรนด์ที่มีความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น และผู้บริโภค 71% ในยุโรปก็เช่นกัน นอกจากนี้ผู้บริโภค 55% ของสหรัฐอเมริกาและ 66% ของสหภาพยุโรปยินดีที่จะจ่ายมากขึ้นเพื่อซื้อสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม²

“ผู้บริโภคกำลังมองหาแบรนด์ที่ตรงกับค่านิยมของพวกเขา ดังนั้นสำหรับแบรนด์สุขภาพแล้ว ผู้บริโภคในปัจจุบันการยอมรับว่าความยั่งยืนเป็นสิ่งที่สำคัญ สิ่งนี้เองที่เราเรียกว่า “ข้อบังคับและความจำเป็นสมัยใหม่ที่สะท้อนถึงค่านิยมของผู้บริโภค“ Decker กล่าว ”ผู้บริโภค ลูกค้า ซัพพลายเออร์ แม้แต่ผู้กำหนดนโยบายและนักลงทุนต่างคาดหวังว่าความยั่งยืนจะเป็นองค์ประกอบหลักในการนำเสนอคุณค่าของเรา”

ในปี 2020 Johnson & Johnson Consumer Health ได้เปิดตัวโครงการ Healthy Lives Mission ซึ่งมีเงินลงทุนจำนวน 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐตลอดปี 2030 เพื่อส่งเสริมสุขภาพของมนุษย์พร้อมไปกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม

การดำเนินการเพื่อความยั่งยืนแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1) การต่อสู้กับโรคที่ป้องกันได้ ซึ่งเริ่มต้นด้วยโครงการเลิกสูบบุหรี่และความร่วมมือในการป้องกันมะเร็งผิวหนัง 2) การเพิ่มความโปร่งใสของผลิตภัณฑ์เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับสินค้าที่เหมาะกับสุขภาพส่วนตัวโดยมีข้อมูลประกอบมากขึ้น และ 3) การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยการลดการใช้พลาสติกบริสุทธิ์ (หรือพลาสติกใหม่ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติหรือน้ำมันดิบ) โดยใช้วัสดุรีไซเคิลมากขึ้นในบรรจุภัณฑ์เพื่อให้แน่ใจว่าบรรจุภัณฑ์ของพวกเขาสามารถรีไซเคิลหรือนำมาใช้ใหม่ได้อย่างง่ายดายและใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนในการดำเนินงาน

“เป้าหมายของเราคือการเปลี่ยนวิถีสุขภาพเพื่อมนุษยชาติ” Decker กล่าว “ถ้าเราเริ่มต้นด้วยวัตถุประสงค์ของเราในฐานะบริษัท และความเข้าใจที่ว่าเราจะมีคนที่มีสุขภาพดีไม่ได้ถ้าโลกของเรายังสุขภาพไม่ดี และเราก็จะเห็นความเร่งด่วนนี้ชัดเจนขึ้น ด้วยเหตุนี้เองความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญต่อธุรกิจและแบรนด์ของเรา”

ในขณะเดียวกัน ด้วยความตระหนักรู้ในใจว่า “เราทุกคนจะต้องร่วมกันทำให้อุตสาหกรรมของเรามีความยั่งยืนมากขึ้น” บริษัทยังได้ร่วมมือกับเพื่อนร่วมอุตสาหกรรม ลูกค้ารายย่อย องค์กรพัฒนาเอกชน และผู้มีส่วนได้เสียที่สำคัญอื่น ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ แบ่งปันความเชี่ยวชาญ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ พวกเขาต่างเป็นสมาชิกของสมาคม Environmental Beauty Score (EBS) ซึ่งเป็นผู้ลงนามใน New Plastics Economy Global Commitment กับ Ellen MacArthur Foundation และได้เข้าร่วมกับ Consumer Goods Forum (CGF) Plastics Waste Coalition of Action (PWCoA)

จากความสนใจที่มากขึ้นต่อสินค้าที่รักษาสิ่งแวดล้อม แบรนด์ต่าง ๆ จึงหาทางที่จะทำให้ลูกค้าทราบถึงความพยายามของพวกเขาในการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ที่ Johnson & Johnson Consumer Health แบรนด์อย่าง Listerine, Neutrogena, Johnson, Le Petit Marseillais, OGX และ Nicorette ล้วนมีสินค้าและโปรแกรมที่จะแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นผ่านช่องทางดิจิทัลและร้านค้าปลีกที่มีมุมมองต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมที่คล้ายคลึงกัน

“แบรนด์ของเรามุ่งมั่นในพันธกิจ Healthy Lives Mission เพราะเป็นสิ่งที่ถูกต้องและสำคัญต่อผู้บริโภคของเรา” Decker กล่าว “เราได้ทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้บรรจุภัณฑ์ของเราสามารถรีไซเคิลและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ง่ายขึ้น เพิ่มการใช้พลาสติกรีไซเคิล และเรายังเสนอรูปแบบการรีฟิลและการใช้ซ้ำเพื่อลดขยะจากบรรจุภัณฑ์โดยรวมเท่าที่สามารถทำได้ แบรนด์ต่าง ๆ กำลังเดินหน้าสู่ความยั่งยืน ความโปร่งใสของสินค้า และผลกระทบทางสังคมในลักษณะที่เหมาะสมที่สุดกับแบรนด์นั้น โดยมีรากฐานมาจากความเข้าใจต่อความคาดหวังของลูกค้าอย่างแท้จริง

ในวันคุ้มครองโลกนี้ Johnson & Johnson Consumer Health จะใช้ ฉลากที่เหมาะกับสภาพอากาศบน Amazon Ads กับแบรนด์ต่าง ๆ รวมทั้ง Nuetrogena เพื่อเน้นย้ำให้ลูกค้าเห็นถึงสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สินค้าที่มีฉลากเหมาะกับสภาพอากาศได้รับการรับรองด้านความยั่งยืนอย่างน้อยหนึ่งประการที่ช่วยรักษาธรรมชาติ เพื่อช่วยให้พบสินค้าเหล่านี้ง่ายขึ้น Amazon Ads จึงมีตัวเลือกสำหรับแบรนด์ในการสร้างหน้าแยกต่างหากใน ร้านค้า ของแบรนด์บน Amazon ที่จะจัดแสดงข้อเสนอสินค้าที่เหมาะกับสภาพอากาศใน “ที่เก็บ” ของพวกเขาเอง วิธีนี้จะช่วยให้ลูกค้าพบสินค้าที่ตรงกับความต้องการในการช้อปปิ้งสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

อย่างที่ Decker ได้อธิบายไว้ แม้กระทั่งตัวเลือกในการช้อปปิ้งสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เป็นก้าวที่นำไปสู่อนาคตที่ดีต่อสุขภาพได้

“ในฐานะผู้บริโภครายบุคคล การเลือกทางเลือกที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมอาจดูเหมือนจะไม่สร้างผลกระทบอะไรนัก แต่ว่าเมื่อทุกคนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ สิ่งนั้นจะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้” Decker กล่าว “ผู้คนจะประเมินตัวเลือกใหม่และเลือกสินค้าที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมกว่าเดิมได้”

¹ Environics Research, Social Values Global Consumer Themes, สหรัฐอเมริกา/ยุโรป/เม็กซิโก 2021
² Environics Research, Social Values Global Consumer Themes, สหรัฐอเมริกา/ยุโรป 2021