4 วิธีในการขยายตลาดวันหยุดของคุณด้วย Amazon Attribution

Amazon Attribution สามารถช่วยให้คุณทราบแนวโน้มที่สำคัญจากแคมเปญการตลาดช่วงวันหยุดที่ไม่ใช่ Amazon ของคุณได้ คุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกที่จะช่วยวางแผนแคมเปญในอนาคตสำหรับกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลทั้งแบบเสียค่าใช้จ่ายและแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายของคุณได้

หลังจากช่วงเทศกาลวันหยุดปีที่แล้ว เราได้พิจารณาประสิทธิภาพในทุกช่องทางที่วัดได้โดยใช้ Amazon Attribution และได้ทราบแนวโน้มสำคัญบางประการ ประการแรก แคมเปญอีเมลที่ใช้การวัดจาก Amazon Attribution มีประสิทธิภาพเหนือกว่าค่าเฉลี่ยสำหรับแคมเปญนอก Amazon ทั้งหมดที่วัดด้วย Amazon Attribution โดยดูจากทั้งการค้นหา โซเชียล หน้าจอแสดงผล และช่องทางวิดีโอโดยสูงขึ้นถึง 18 เท่า ประสิทธิภาพนี้เป็นจริงในทุกเมทริกซ์ชี้วัดคอนเวอร์ชันของ Amazon รวมถึงเมทริกซ์ funnel กลางที่แสดงการพิจารณาสำหรับสินค้าของคุณใน Amazon เช่น อัตรารายละเอียดจำนวนการเปิดดูหน้าเพจและอัตราเพิ่มไปที่รถเข็น นอกเหนือจากเมทริกซ์ funnel ต่่ำอย่างอัตราการขายและอัตราการซื้อ ¹ ประสิทธิภาพนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของอีเมลในการเข้าถึงลูกค้าไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ส่วนไหนของกระบวนการช้อปปิ้ง

ช่องทางการตลาดที่ไม่ใช่ของ Amazon ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเป็นอันดับสองคือการค้นหาที่เสียค่าใช้จ่าย หรือเรียกอีกอย่างว่าการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหา (SEM) ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่ายอดขายและอัตราการซื้อเฉลี่ยสำหรับแคมเปญทั้งหมดที่วัดได้จาก Amazon Attibution ผ่านช่องทางโซเชียล หน้าจอ และวิดีโอ โดยสูงขึ้นถึง 5 เท่าในช่วงไตรมาสที่ 4 ผลลัพธ์เหล่านี้ยืนยันว่าการค้นหาที่เสียค่าใช้จ่ายเป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงนักช้อปในขณะที่พวกเขากำลังหาข้อมูลสินค้าของคุณ²

นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ Amazon Attribution เพื่อประเมินกลยุทธ์ที่คุณกำลังวางแผนสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันได้ด้วย ข้อมูลเชิงลึกสามารถช่วยให้คุณเข้าใจว่ากลุ่มของนักช้อปนอก Amazon กลุ่มใดที่มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าจากแบรนด์ของคุณบน Amazon

ตัวอย่างเช่น ลองนึกภาพว่าคุณส่งอีเมลที่มีข้อเสนอแนวเดียวกันไปยังกลุ่มเป้าหมายสามกลุ่ม ได้แก่ ผู้ที่สนใจเรื่องสุขภาพและการออกกำลังกาย ผู้ปกครองและนักต่อรองราคา ในขณะที่ผู้ที่สนใจเรื่องสุขภาพและการออกกำลังกายน่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีส่วนร่วมมากที่สุด แต่การตรวจวัดจาก Amazon Attribution อาจแสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้ปกครองและนักต่อรองราคาที่ได้รับอีเมลเป็นกลุ่มที่สร้างยอดขายบน Amazon ให้คุณได้มากกว่า หลังจากนั้นคุณจะสามารถทดสอบวิธีใหม่ ๆ ในการเพิ่มการมีส่วนร่วมของกลุ่มผู้ที่รักสุขภาพและการออกกำลังกาย และกระตุ้นยอดขายจากกลุ่มผู้ปกครองและนักต่อรองราคาได้

ในการตอบคำถามเหล่านี้ คุณต้องเริ่มทดสอบและศึกษาว่าหน้าแรกแบบไหน จะเป็นหน้ารายละเอียดสินค้าหรือ Storeของคุณ ที่จะนำเสนอประสบการณ์ที่เหมาะสมให้กับลูกค้าได้โดยพิจารณาจากตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ในกระบวนการชอปปิงและเป้าหมายธุรกิจของคุณ

ตัวอย่างเช่น สำหรับโฆษณาที่โปรโมตแบรนด์ของคุณเป็นการทั่วไป หรือสำหรับโฆษณาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่คุ้นเคยกับแบรนด์ของคุณ คุณอาจจะทดสอบว่าควรนำพวกเขาไปยังหน้ารายละเอียดสินค้าเลยหรือจะนำไปยังหน้าร้านค้าของคุณแทน การนำนักช้อปไปยังหน้ารายละเอียดจะทำให้พวกเขาหยิบสินค้าลงตะกร้าได้อย่างง่ายดาย ในทางกลับกัน การส่งนักช้อปไปยังร้านค้าของคุณจะเป็นการช่วยให้นักช้อปหน้าใหม่ที่ยังไม่พร้อมที่จะซื้อได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์และสินค้าของคุณ ประโยชน์อีกประการหนึ่งของการนำนักช้อปมาที่ Store ของคุณก็คือ พวกเขาสามารถค้นพบสินค้าเพิ่มเติมจากแบรนด์ของคุณที่พวกเขาอาจยังไม่คุ้นเคย

การใช้ Amazon Attribution เพื่อวัดผลกิจกรรมทางการตลาดของคุณในช่วงใกล้วันหยุดยาวจะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจมากขึ้นว่า ลูกค้าของคุณมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของคุณอย่างไรในทุกที่ที่พวกเขาใช้เวลาอยู่ ด้วยข้อมูลเชิงลึกจาก Amazon Attribution เหล่านี้ คุณสามารถมั่นใจได้ว่าแคมเปญการตลาดวันหยุดของคุณจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ของคุณบน Amazon ได้ สำหรับกลยุทธ์เพิ่มเติมที่จะช่วยให้คุณสร้างผลกระทบสูงสุดในช่วงวันหยุดและตลอดช่วงสิ้นปีโดยการใช้ข้อมูลเชิงลึกของ Amazon Attribution โปรดดู แนวทางของเรา

Amazon Attribution รุ่นเบต้ามีให้บริการสำหรับผู้ค้าที่ขายสินค้าบน Amazon ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน เยอรมนีและแคนาดา และสำหรับผู้ขายมืออาชีพที่ลงทะเบียนในการลงทะเบียนแบรนด์ Amazon ที่ขายสินค้าบน Amazon ในสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้น เอเจนซี่ที่มีลูกค้าที่มีคุณสมบัติซึ่งขายสินค้าบน Amazon ก็สามารถเข้าใช้งานได้ด้วย

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ Amazon Attribution เพื่อวัดผลและปรับกิจกรรมการตลาดให้เหมาะสม ทั้งแบบออร์แกนิคและแบบเสียค่าใช้จ่าย และเพื่อทำความเข้าใจว่ากลยุทธ์การตลาดที่ไม่ใช่ Amazon ของคุณจะช่วยเพิ่มยอดขายบน Amazon ได้อย่างไร