สำหรับ Carly Zipp จาก Amazon Ads การเป็นผู้นำหมายถึงการเพิ่มขีดความสามารถให้กับทีมของเธอ การค้นหาจุดสมดุล และ Diet Coke

นานมาแล้วก่อนที่ Carly Zipp จะมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ด้านการตลาดของแบรนด์ที่ Amazon Ads เธอเป็นเสียงที่คุ้นเคยสำหรับผู้ฟังวิทยุในเขตมหานครวอชิงตัน ดีซี ทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นหลังจบชั้นมัธยมปลายก่อนเข้าปีแรกที่มหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลต์ เมื่อเธอตอบรับการฝึกงานที่สถานีวิทยุ Z104 โดยทำสิ่งที่คุณอาจคิดว่าเป็นหน้าที่ขั้นพื้นฐานของเด็กฝึกงาน เช่น จัดทำรายการเพลง เตรียมการสัมภาษณ์ออกอากาศ และงานอื่นในทำนองเดียวกัน แต่งานของเธอเปลี่ยนไปอย่างมากในเช้าวันที่ 11 กันยายน 2001

“ฉันฝึกงานกะเช้า ตี 5 ถึง 9 โมงเช้า แต่เมื่อเพนตากอนถูกโจมตี ทุกอย่างเปลี่ยนไป” Zipp รำลึก “งานของฉันในฐานะเด็กฝึกงานเปลี่ยนไปเป็นการลงพื้นที่ไปตามโรงเรียน และสัมภาษณ์ผู้คนว่า อเมริกาและคำปฏิญาณแห่งความจงรักภักดี มีความหมายต่อพวกเขาอย่างไร” การรายงานข่าวของเธอในวันนั้นกลายเป็นข่าวระดับชาติ และในขณะที่เธอพูด เธอ "สร้างชื่อให้กับ [ตัวเอง] โดยไม่ได้ตั้งใจ" ความคล่องตัวของเธอในช่วงเวลานั้น นำไปสู่ตำแหน่งที่ได้ออกอากาศเต็มเวลาที่สถานีคู่แข่ง ในอีกสองทศวรรษต่อมา Zipp ได้บ่มเพาะอาชีพตั้งแต่นักประชาสัมพันธ์ทางทีวี ไปจนถึงผู้บุกเบิกสื่อสังคมออนไลน์ของนิตยสาร และเป็นผู้รับผิดชอบกลยุทธ์การตลาด B2B สำหรับส่วนกลางของ TikTok ตอนนี้เธอนำประสบการณ์ทั้งหมดนั้นและอีกมากมายมาสู่ Amazon Ads

อาชีพของ Zipp ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเวลาสำคัญ ที่ต้องใช้ทั้งความเฉลียวฉลาด ความมั่นใจในตนเอง และบางทีอาจต้องท้าทายบรรทัดฐานเล็กน้อย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Zipp ได้พัฒนาปรัชญาที่ขับเคลื่อนชีวิตส่วนตัวและอาชีพของเธอ: “รู้คุณค่าของคุณ ในที่ทำงาน ที่บ้าน ในความรัก และในชีวิต อย่าทำอะไรที่น้อยกว่านี้”

ด้านล่าง Zipp แบ่งปันเส้นทางในสายอาชีพของเธอ คำแนะนำสำหรับผู้นำที่มองหาความสมดุล และเปิดเผยว่าการพักดื่ม Diet Coke สามารถเปลี่ยนวันทั้งวันได้อย่างไร

TikTok เป็นเรื่องของชุมชน และเราได้สร้างชุมชนภายในที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน คุณรู้ไหม ที่ Amazon ฉันเข้ามาโดยหวังว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่แตกต่างคือ ฉันเข้ามาในทีมที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว ด้วยความรู้สึกเป็นชุมชนของพวกเขาเอง ฉันต้องค้นหาจุดที่ฉันจะลงตัวกับสิ่งนั้น และให้เกียรติกับสิ่งที่สร้างขึ้นแล้ว คุณคงไม่อยากเอาปืนออกมาขู่แล้วพูดว่า นี่ฉันนะ!

ฉันยังคิดถึงการให้ผู้คนได้แสดงตัวตนที่แท้จริงของเขา และตระหนักว่านั่นเป็นวิธีเดียวที่จะสร้างความไว้วางใจนั้น ฉันจำได้ว่าในวันแรก ฉันอยากให้ผู้คนเชื่อใจฉันเป็นอย่างมากตั้งแต่เริ่มแรก แต่ก็จำเป็นต้องตระหนักว่า เรื่องนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในชั่วข้ามคืนและต้องใช้เวลา

รู้คุณค่าของคุณ ในที่ทำงาน ที่บ้าน ในความรัก และในชีวิต อย่าทำอะไรที่น้อยกว่านี้

ฉันมักจะบอกผู้คนให้ใช้เวลาตามที่ตนต้องการเพื่อตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น 30 นาที หรือวันสุขภาพจิตสักวัน ในเวลาเดียวกัน ฉันไม่สามารถเพิกเฉยต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่อาจต้องการบางอย่างจากฉันได้ ดังนั้นฉันจึงพูดเสมอว่า “คุณต้องรู้ด้วยตัวเอง” คุณต้องรู้จักคุณค่าของตัวเอง และคุณค่าของคุณคือสิ่งที่คุณสามารถทำได้และสิ่งที่มีค่าสำหรับคุณ นอกจากนี้ยังรวมถึงคุณค่าที่คุณมีต่อผู้อื่นอีกด้วย

ฉันจะทำงานหนักตั้งแต่เช้าจรดเย็นเพื่อทีมนี้ ฉันจะเดินทางและอยู่เคียงข้างทุกคนเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาต้องการฉัน แต่ฉันก็รู้ด้วยว่าฉันต้องการช่วงเวลาเหล่านั้นสำหรับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการทำ TikToks กับลูก ๆ ของฉัน เพราะลูกชายของฉันจะเป็นคนพูดว่า "อย่าลืมกดไลค์กดแชร์!" หรือเพลิดเพลินกับ Diet Coke จาก McDonald จะมีอะไรที่ดีกว่านี้ไหม ฉันจะบอกว่า ในทางกลับกัน ฉันไม่สามารถปล่อยให้ข้อความที่คนส่งมาไม่ได้รับคำตอบ ไม่ว่าจะเป็นจากทีมงานหรือลูกค้า ฉันชอบที่จะตอบกลับทุกคนโดยเร็วที่สุด บางครั้ง ฉันต้องเตือนตัวเอง ให้ทำตามคำแนะนำของฉัน

แต่นั่นคือขอบเขตของฉัน ฉันคิดว่าคุณต้องรู้จักตัวเอง และทำในสิ่งที่ได้ผลสำหรับคุณ ยืนหยัด ถามตัวเอง: ขอบเขตของคุณอยู่ตรงไหน และคุณจะกำหนดมันอย่างไร อะไรทำให้คุณเก่งในสิ่งที่คุณทำ และสิ่งที่คุณต้องทำนั้นคืออะไร

จริง ๆ แล้วเป็นสิ่งที่เรากำลังดำเนินการอยู่ เพราะฉันมีมุมมองที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของแบรนด์และเอกลักษณ์ที่มองเห็น ฉันรู้ว่าฉันชอบอะไร และฉันรู้ว่าฉันไม่ชอบอะไร คุณต้องรู้ว่าจุดไหนที่คุณสามารถผลักดันกลับไป และจุดไหนที่คุณสามารถปล่อยให้ทีมของคุณสร้างผลงานและดำเนินการด้วยตัวเองได้ ฉันตระหนักดีว่าฉันสามารถแบ่งปันความสมดุลนั้นได้จากที่ใด และเมื่อใดที่จะยืนอยู่เบื้องหลังสิ่งที่ฉันเชื่อมั่นว่าดีที่สุด

นี่เป็นเหมือนการทดสอบเล็ก ๆ น้อย ๆ และเรียนรู้ว่าเมื่อใดควรปล่อยให้ทีมของคุณทำงานอย่างยืดหยุ่นตามลำพัง ในสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีที่สุดเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

ประสบการณ์การทำงานก่อนมา Amazon เป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับฉันจริง ๆ เพราะฉันมีลูกทั้งสองคนขณะทำงานที่นั่น ฉันรักคนที่ฉันทำงานด้วย แต่ในตำแหน่งก่อนหน้านี้ ฉันต้องแอบพาลูกไปพบแพทย์ตามนัด ฉันปิดบังว่าฉันตั้งท้องอยู่หลายเดือน และฉันกลัวว่ามันจะมีผลกับเส้นทางอาชีพของฉัน ฉันคิดว่าไม่ว่าบริษัทจะเป็นอย่างไร นั่นคือสิ่งที่คุณแม่วัยทำงานรู้สึกกังวล

เราถูกสอนให้ปกปิดด้านนั้นของชีวิต ไม่แสดงสิ่งที่อาจดูเหมือนเป็นจุดอ่อนหรือข้อเสีย จู่ ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทัศนคติเกี่ยวกับการเป็นแม่และการจัดลำดับความสำคัญของการแข่งขันก็กลับตาลปัตร และเราทุกคนต้องทำงานจากที่บ้าน ฉันคิดว่านั่นทำให้คนรู้ว่าฉันเป็นมนุษย์ และรู้ว่าพวกเขาสามารถสื่อสารกับฉันได้ในแบบนั้น ทุกคนมีสิ่งที่มีความหมายกับตัวเอง และทุกคนต้องการที่จะรู้สึกว่าได้รับการมองเห็น มีคนรับฟัง และมีคนเข้าใจ ฉันมักจะพยายามแสดงตัวตนที่แท้จริง และนำทุกสิ่งที่เป็นตัวเองไปสู่จุดที่ฉันอยู่ ไม่ว่านั่นจะหมายความว่าฉันกำลังดื่ม Diet Cokes หรือให้ลูก ๆ เต้นอยู่เบื้องหลังก็ตาม มันเป็นเรื่องปกติที่มนุษย์จะรู้สึก

ฉันรู้ว่านี่เป็นแนวคิดที่ค่อนข้างโบราณ แต่คุณก็ต้องเป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณ