เคล็ดลับ 5 ประการเพื่อเปิดตัวแคมเปญการตลาดหนังสือครั้งแรกของคุณ

คุณอาจรู้สึกกังวลเมื่อคิดจะเริ่มต้นแคมเปญโฆษณาหนังสือครั้งแรกกับ Amazon Ads แต่ไม่ว่าคุณจะมีหนังสือที่ตีพิมพ์เพียงเล่มเดียวหรือหลายเล่ม การทำการตลาดด้วยแคมเปญโฆษณาก็มีประโยชน์มากมายต่อผลงานที่คุณรัก ผมกับทีมงานที่ Best Page Forward LLC ได้ช่วยผู้แต่งหนังสือกว่า 30,000 ราย ในการเริ่มต้นแคมเปญใหม่ หรือปรับแคมเปญที่มีอยู่ให้เหมาะสมผ่านชาเล้นจ์ Author Ad Profit Challenge*

นี่คือสิ่งสำคัญ 5 ประการที่คุณควรคำนึงถึง เมื่อตัดสินใจว่าจะสร้างแคมเปญของคุณเอง

เมื่อคุณพยายามเข้าถึงผู้อ่านที่มักจะซื้อหนังสือในร้านค้า Amazon การจัดแสดงหนังสือของคุณในที่ที่พวกเขาใช้เวลาเลือกซื้ออยู่แล้ว จะมีประโยชน์มาก การใช้ Sponsored Products บน Amazon Ads จะช่วยให้หนังสือของคุณโดดเด่นในหน้ารายการสินค้าหนังสือต่าง ๆ คุณยังสามารถแสดงหนังสือของคุณ เมื่อผู้อ่านหาซื้อหนังสือในแนวคุณครั้งต่อไปอีกด้วย

การแสดงโฆษณาในที่ที่ผู้อ่านกำลังตัดสินใจซื้อหนังสือ ช่วยให้คุณเปิดโอกาสให้พวกเขาซื้อหนังสือคุณได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น

และถือเป็นโบนัส หากหนังสือของคุณอยู่ในโปรแกรม Kindle Direct Publishing (KDP) Select เพราะผู้อ่านที่สนใจสามารถซื้อหรือยืมหนังสือของคุณได้ นี่เป็นวิธีที่แตกต่างกันสองวิธี สำหรับผู้อ่านที่จะเพลิดเพลินกับผลงานของคุณเมื่อตัดสินใจคลิกโฆษณา

หนึ่งในความกังวลที่พบเห็นได้มากที่สุดของการตลาดที่มีค่าใช้จ่ายคือ กลัวว่าจะใช้จ่ายมากเกินไป โชคดีที่ยังมีสามวิธีหลัก ๆ ในการจำกัดค่าใช้จ่ายโฆษณาให้อยู่ภายในงบประมาณการตลาดของคุณ

วิธีแรกคือ ประมูลในราคาที่พอประมาณสำหรับแคมเปญ Sponsored Products ของคุณ จากการทดสอบอย่างครอบคลุมของทีมงาน เราพบว่า ราคาประมูลที่ 0.39 USD เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สามารถได้รับจำนวนการแสดงผลของโฆษณาและยอดคลิก ขณะที่ยังคงรักษาผลกำไรของหนังสือไว้ได้ เมื่อเลือกกลยุทธ์การประมูลเป็น "การประมูลแบบไดนามิก - ลงเท่านั้น" หรือ "ราคาประมูลคงที่" คุณจะใช้จ่ายต่อคลิกไม่เกินจำนวนเงินประมูลที่คุณตั้งไว้ หากคุณยินดีจ่ายมากกว่าจำนวนเงินประมูลนั้น (ไม่เกินสองเท่า) คุณสามารถเลือกกลยุทธ์การประมูล เช่น "ราคาประมูลแบบไดนามิก - ขึ้นและลง" ด้วยกลยุทธ์นี้ Amazon Ads จะเพิ่มราคาประมูล (สูงสุด 100%) ในเวลาจริงเมื่อโฆษณาของคุณมีแนวโน้มที่จะแปลงเป็นการขายมากขึ้น และลดราคาประมูลเมื่อมีโอกาสแปลงเป็นการขายน้อยลง ควรตรวจสอบราคาประมูลของคุณอีกครั้งเมื่อสร้างแคมเปญ เพื่อให้ราคาประมูลของคุณสมเหตุสมผล และตรวจสอบว่ามีการตั้งค่ากลยุทธ์การประมูลตามที่คุณตั้งใจไว้

อีกวิธีหนึ่งในการจำกัดค่าใช้จ่ายโฆษณาของคุณคือ การใช้งบประมาณเพียงเล็กน้อยสำหรับแต่ละแคมเปญ Amazon Ads แนะนำให้ผู้แต่งเริ่มต้นด้วยงบประมาณรายวัน $10 เพื่อช่วยให้โฆษณาของคุณทำงานตลอดทั้งวัน ในกรณีส่วนใหญ่ เมื่อผู้แต่งใช้ราคาประมูลร่วมกับงบประมาณรายวันที่ต่ำลง แคมเปญเหล่านี้ก็อาจไม่ได้ใช้จ่ายเต็มอยู่แล้ว

นี่คือคุณสมบัติที่สะดวกประการสุดท้าย: คุณสามารถเลือกงบประมาณสำหรับพอร์ตโฟลิโอโฆษณาของคุณได้ พอร์ตโฟลิโอเป็นเหมือนโฟลเดอร์สำหรับแคมเปญโฆษณาของคุณ คุณสามารถสร้างพอร์ตโฟลิโอของแคมเปญโฆษณาทั้งหมดที่คุณมีสำหรับหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่ง แล้วกำหนดวงเงินงบประมาณรายเดือนสำหรับโฆษณาทั้งหมดในพอร์ตโฟลิโอนั้น ตัวอย่างเช่น หากคุณกำหนดวงเงินงบประมาณรายเดือนไว้ที่ $20 สำหรับ
พอร์ตโฟลิโอหนึ่ง โฆษณานั้นจะหยุดแสดงชั่วคราวและหยุดการใช้จ่าย เมื่อรวมกันแล้วถึงจำนวนเงินที่ตั้งไว้

ด้วยการใช้ราคาประมูลและงบประมาณที่ต่ำลง และตั้งงบประมาณพอร์ตโฟลิโอ คุณสามารถมั่นใจได้ว่าแคมเปญของคุณจะไม่ใช้จ่ายมากเกินกว่าที่คุณต้องการ

ยังคงมีการตลาดประเภทอื่น ๆ อยู่เสมอที่คุณจะใช้ได้ เพื่อประชาสัมพันธ์หนังสือของคุณ คุณสมบัติที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งของแคมเปญ Amazon Ads คือ แคมเปญมักจะส่งผลให้มีจำนวนการเข้าชมมากขึ้นในรูปแบบของยอดคลิก เมื่อคุณส่งจำนวนการเข้าชมรูปแบบอื่นไปยังหน้ารายละเอียดหนังสือของคุณ

สมมติว่า คุณกำลังใช้งานดีลนับถอยหลังของ Kindle ซึ่งจะลดราคาหนังสือของคุณเหลือ $0.99 สูงสุดห้าวันต่อไตรมาส ในระหว่างการขายดังกล่าว คุณอาจส่งอีเมลถึงผู้อ่านเพื่อแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับโปรโมชันราคานี้ ไม่นานหลังจากส่งอีเมลออกไป คุณอาจเห็นจำนวนการแสดงผลของโฆษณาและยอดคลิกเพิ่มเติมบน Amazon Ads ของคุณ

นี่คือเหตุผลที่ควรให้แคมเปญทำงานผ่าน Amazon Ads ทุกครั้งที่คุณมอบส่วนลดหรือส่งจำนวนการเข้าชมเพิ่มเติมไปยังหนังสือของคุณ

ผู้แต่งหลายคนใช้แคมเปญ Amazon Ads เพื่อเพิ่มยอดขายหนังสือในระยะสั้น แต่มีประโยชน์ระยะยาวอื่น ๆ อีกมากมาย หากแสดงโฆษณาหนังสือหลายเล่ม คุณจะสามารถเห็นข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญว่า หนังสือหรือซีรีส์หนังสือใดที่มีแนวโน้มจะให้ผลกำไรมากที่สุด ข้อมูลนี้สำคัญ เนื่องจากอาจเป็นเหตุผลให้คุณสร้างแคมเปญมากขึ้น และให้ความสำคัญกับเล่มหรือซีรีส์หนังสือที่ทำกำไรได้มากที่สุด

ในขณะที่คุณดำเนินการแคมเปญเพิ่มเติมสำหรับหนังสือที่ทำรายได้สูงสุด หนังสือของคุณอาจเริ่มได้รับจำนวนการเข้าชมมากขึ้นผ่านข้อความค้นหาสำหรับการช้อปปิ้ง และจำนวนการเข้าชมแบบออร์แกนิกด้วย แต่หากไม่มีข้อมูลเชิงลึกเบื้องต้นจากแคมเปญช่วงแรก ๆ คุณอาจไม่รู้เลยว่า ควรส่งเสริมการขายหนังสือเล่มใด การรวบรวมข้อมูลจากโฆษณาอาจมีประโยชน์ต่อสถานะของธุรกิจในระยะยาว พอ ๆ กับการเพิ่มยอดขายในขั้นต้น

สุดท้ายนี้ สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า การโฆษณาไม่ได้เน้นที่ค่าใช้จ่าย แต่เป็นเรื่องของการลงทุน คุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญของแต่ละแคมเปญ ที่สามารถชี้ให้คุณเห็นทิศทางที่ทำกำไรได้มากกว่า ข้อมูลเชิงลึกของแคมเปญเหล่านี้แสดงให้เห็นได้กระทั่งว่า หนังสือของคุณต้องการการปรับปรุงเพิ่มเติมในหน้ารายละเอียดสินค้า (เช่น หน้าปก คำอธิบายหนังสือ หรือชื่อเรื่อง) ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่า โครงการต่อไปของคุณมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงขึ้น

การลงทุนใน Amazon Ads ตอนนี้สามารถช่วยให้คุณเติบโตในอนาคตในฐานะผู้แต่งหนังสือได้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณา sponsored สำหรับผู้แต่งหนังสือ KDP และชาเลนจ์ฟรี 5-Day Author Ad Profit Challenge