แนวโน้ม 3 ข้อเกี่ยวกับ eCommerce ในปี 2022 ที่นักการตลาดจำเป็นต้องรู้
10 มีนาคม 2022 โดย Mark Grennan และ Stephanie Lowther ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาตัวแทนอาวุโสและ Zach Weinberg รองประธานฝ่าย eCommerce ของ Reprise
ร้านค้าปลีกออนไลน์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงนับจากยุคแรก ๆ ที่มีการเปิดใช้งาน ผ่านการปรับปรุงการทำธุรกรรมดิจิทัลให้เหมาะสม อ้างอิงจาก Reprise Commerce. จุดที่มุ่งเน้นไปคือขั้นสุดท้ายของเส้นทางของลูกค้า คือ คอนเวอร์ชัน ในตอนนี้เราได้เห็นถึงการเร่งยอดขายที่ได้รับอิทธิพลทางดิจิทัลจากยุคปัจจุบัน ซึ่งต้องการให้แบรนด์เปิดใช้งานการปรับปรุงประสบการณ์ดิจิทัลที่เหมาะสมโดยไม่ต้องคำนึงถึงจุดสัมผัสของผู้บริโภค
อย่างแรก เจ้าของสื่อกำลังปลูกฝังประสบการณ์ทางการค้าลงในสื่อของตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากโอกาสในการซื้อสินค้านั้นเพิ่มขึ้นตลอดเส้นทาง สื่อจึงเกือบที่จะกลายเป็นร้านค้าหลัก ตัวอย่างเช่น สื่อต่าง ๆ อย่าง Instagram และTikTok ที่มีพันธมิตรเพื่อให้แบรนด์ต่าง ๆ สร้างรายได้จากสื่อของพวกเขาโดยตรงภายในฟีดโซเชียลของแพลตฟอร์มเหล่านี้
อย่างที่สอง ร้านค้าอย่าง Amazon ไม่ได้พุ่งเป้าไปแค่ที่การทำธุรกรรมเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป พวกเขากำลังพัฒนาไปเป็นฮับการใช้งานของแบรนด์ที่สมจริงและมีตัวเลือกหลากหลาย ในส่วนที่พวกเขาส่งมอบเนื้อหา ประสบการณ์ สินค้าและบริการ
แนวโน้มเหล่านี้บังคับให้เราต้องมองสภาพแวดล้อมของการช้อปปิ้งที่แตกต่างไป ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับขั้นตอนสุดท้ายในการซื้อของลูกค้าอีกต่อไป แต่เกี่ยวกับการสร้างจุดสัมผัสที่เกี่ยวข้องร่วมกับเส้นทางของลูกค้าผ่านประสบการณ์ในการช้อปปิ้งของพวกเขา นั่นคือสิ่งที่เราเรียกว่าความไหลลื่น
Reprise Commerce ก่อตั้งและบริหารงานโดยศิษย์เก่าของ Amazon รวมถึงจัดระเบียบตามกระบวนการของ Reprise เพื่อเร่งให้เกิด ความไหลลื่นของลูกค้า ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าดิจิทัลระดับโลกกว่า 250 คนสร้างรายได้ด้วยการปรับปรุงเสาหลักสำคัญสามประการเพื่อผลักดันให้เกิดประสิทธิภาพ ได้แก่ ประสบการณ์ สื่อ และเนื้อหา
จากข้อมูลของ Reprise Commerce จะพบว่าด้านล่างคือแนวโน้มสามประการที่พวกเขาเชื่อว่านักการตลาดทุกคนจำเป็นต้องรู้ในปี 2022 เพื่อลดช่องว่างระหว่างสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังในอนาคตและวิธีที่แบรนด์สามารถทำให้บรรลุเป้าหมายได้
1. เส้นทางใหม่ของผู้บริโภคและการไหลลื่นของลูกค้า
เส้นทางของผู้บริโภคในสมัยใหม่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและมีบางครั้งที่อาจจะรวมถึงจุดที่เป็นแรงเสียดทาน เช่น เนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกัน หน้าบริการที่หมดอายุไปแล้วในหน้าผลการค้นหา และประสิทธิภาพของเว็บไซต์ที่ช้าในหลายหน้าจอ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องลบจุดที่เป็นแรงเสียดทานนั้นออกไปจากเส้นทาง
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ Reprise ขอแนะนำให้มุ่งเน้นไปที่เสาหลักสามประการนี้ คือ เนื้อหา สื่อ และประสบการณ์ แบรนด์ควรจะวิเคราะห์เสาหลักแต่ละต้นด้วยความรอบคอบและเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อระบุถึงด้านที่เป็นแรงเสียดทาน จากนั้นเปิดใช้งานแผนเพื่อขจัดเแรงเสียดทานออกไปและเพิ่มความไหลลื่นของลูกค้าซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับความสำเร็จของธุรกิจ สิ่งนี้มีความเป็นไปได้ด้วยกระบวนการและระบบปฏิบัติการที่ถูกกำหนดไว้อย่างดีเยี่ยมควบคู่ไปกับข้อมูลเชิงลึกและแผนปฏิบัติการณ์ที่เหมาะสม
“Amazon ใช้วิธีแบบองค์รวมเมื่อทำงานร่วมกับผู้ค้าและผู้ขาย ซึ่งเห็นได้ชัดเจนด้วยสินค้าแบบบริการตนเองของพวกเขารวมถึง Vendor Central และ Seller Central จากมุมมองของการดำเนินการและการค้าปลีก และชุด Amazon Ads จากมุมมองของความสามารถด้านสื่อ เราชื่นชอบเครื่องมือนี้เพราะมันทำงานในขั้นตอนการล็อกพร้อมกับโมเดลความไหลลื่นของลูกค้าของเรา การทำงานร่วมกันนี้ช่วยให้คนของเราเข้าถึงเมทริกซ์ที่พวกเขาต้องการเพื่อให้ข้อมูลลูกค้าถึงวิธีการวางแผนและการดำเนินการที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงการปรับธุรกิจของพวกเขาให้เหมาะสมใน Amazon Store และที่อื่นๆ "
— Glen Conybeare ประธานบริหารระดับนานาชาติ Reprise Commerce
2. การทำงานเพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศในด้านการปฏิบัติงาน
เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการค้าดิจิทัล แบรนด์จำเป็นต้องยอมรับว่าการดำเนินงานมีความสำคัญต่อประสบการณ์ของลูกค้า (รวมถึงห่วงโซ่อุปทาน/โลจิสติกส์ บริการคลังสินค้าพร้อมจัดส่ง การคาดการณ์ ความสามารถในการทำกำไร และอื่น ๆ) เช่นเดียวการสร้างแบรนด์ การตลาด และการโฆษณา Amazon ได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญการดำเนินการในเชิงลึก และ Amazon Ads ช่วยให้แบรนด์ทำการโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพตามขนาด
ข้อเสนอสำคัญคือการขยายขอบเขตของการสนับสนุนที่ตัวแทนมอบให้กับลูกค้าโดยการพัฒนาการค้าปลีกและแนวทางปฏิบัติงาน ถัดไปคือตัวแทนสามารถพิจารณาการใช้ประโยชน์ของ ใบรับรองการเรียนรู้เกี่ยวกับคอนโซล ที่ Amazon Ads จัดหาให้เพื่อช่วยให้พวกเขาเข้าใจว่าลูกค้าสามารถบรรลุเป้าหมายด้านการดำเนินการที่ยอดเยี่ยมนี้ได้อย่างไร ท้ายที่สุด พันธมิตรตัวแทนอาจต้องการที่จะลงทุนเพื่อสร้างทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าปลีกและการปฏิบัติงานที่ทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อปิดวงจรด้านการตลาด ยอดขาย และการทำให้บรรลุเป้าหมายด้วยการป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียยอดขายและกำไรเนื่องจากการปฏิเสธการชำระเงินหรือข้อผิดพลาดจากการดำเนินการอื่น ๆ
"Amazon กำลังสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องในส่วนของวิธีการที่ร้านค้าปลีกจะสามารถสนับสนุนพันธมิตรของแบรนด์ได้ ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากการแบ่งปันวิธีการ สัญญาณ และแนวทางใหม่ ๆ โดยทั่วไปแล้ว Amazon Ads มักจะมีส่วนแบ่งของงบประมาณที่สูงมากและมีการสนับสนุนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการกับเราแบบ hands-on-keyboard อย่างไรก็ตามมีการสนับสนุนตัวแทนอีกด้านหนึ่งซึ่งก็คือกลยุทธ์ด้านการค้าปลีก การดำเนินงาน และการค้า เราเชื่อว่า Reprise เป็นผู้นำในแนวทางปฏิบัตินี้ และพันธมิตรของเราที่ Amazon ต่างพยายามจัดหาเครื่องมือและการสนับสนุนเพื่อขยายธุรกิจของลูกค้าให้สูงที่สุดและบรรลุความเป็นเลิศในการดำเนินงาน"
— Will Margaritis SVP หัวหน้าฝ่าย eCommerce Reprise Commerce
3. การใช้ประโยชน์ของโซลูชันโฆษณาจาก Amazon Ads
Reprise ลงทุนเชิงกลยุทธ์ไปกับผู้มีศักยภาพสูงและทรัพยากร อย่าง E-commerce Acceleration Program ของ Amazon Ads เพื่อให้อยู่ในสถานะที่เหมาะสมกับตลาดทางการค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว วิธีการคาดการณ์ล่วงหน้าซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดจาก Amazon Ads ช่วยให้ลูกค้าของ Reprise สามารถใช้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าภายในคอนโซล Amazon Ads เช่น Amazon Marketing Cloud, Amazon DSP และAmazon Attribution และอื่นๆ เพื่อช่วยให้พวกเขามีความโดดเด่นในตลาดค้าปลีก แบรนด์สามารถตรวจสอบว่านวัตกรรมเหล่านี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาที่ชำระเงินแบบออร์แกนิคกับลูกค้าเดิมที่มีอยู่และการเข้าถึงลูกค้าใหม่บน Amazon และช่องทางการขายอื่น ๆ ได้อย่างไร
“Amazon ยังคงปรับปรุงและพัฒนานวัตกรรมทางการตลาดของตนเองอย่างต่อเนื่อง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราได้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลสำหรับนักการตลาดของแบรนด์ที่มีความสนใจในสิ่งที่ Amazon กำลังพัฒนาอยู่ กระแสของสินค้าใหม่ๆ โซลูชันใหม่ๆ และข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ ที่หลั่งไหลเข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้ Amazon เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับแบรนด์ที่ต้องการลงทุนในงบประมาณด้านสื่อเพิ่มขึ้น”
— Jonathan Rigby หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ Reprise Commerce